เรื่องเล่า...จากครูโยคะ

เรื่องเล่า...จากครูโยคะ เป็นการรวบรวมเรื่องราวต่างๆจากประสบการณ์การสอนโยคะของครูจิมมี่ ถ่ายทอดออกมาเป็นบทความ สอดแทรกอารมย์ขัน เหมาะกับผู้ที่สนใจในการฝึกโยคะ, ครูฝึกโยคะและทุกๆคน ทุกเพศทุกวัย



สำหรับทุกๆท่านที่เพิ่งจะเข้ามาใช้บริการ อ่านบล็อก เรื่องเล่า...จากครูโยคะ โดยครูจิมมี่ สามารถเลือกคลิ๊กเข้าไปอ่าน บทความอื่นๆได้ ที่เดือนต่างๆ ซึ่งเรียงอยู่ทางด้านขวามือของบทความ ขอบพระคุณมากครับ



ขอพลังแห่งโยคะจงอยู่กับคุณตลอดไป...นมัสเต...





วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เวิร์คชอป:หลักและวิธีการฝึกโยคะอาสนะด้วยท่ายืน



เวิร์คชอป : หลักและวิธีการฝึกโยคะอาสนะด้วยท่ายืน

 วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน 2553 เวลา 13.00-16.30 น.
ณ. ฟิต สตูดิโอ, มหาทุน พลาซ่า (สถานีรถไฟฟ้า BTS เพลินจิต)

ค่าใช้จ่ายในการอบรมท่านละ 1,000 บาท
(มาสมัครพร้อมกันตั้งแต่ 3ท่านขึ้นไป ลดทันที 10%)

รับจำนวน จำกัด สำรองที่ในการฝึกอบรมและขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02 650 9242 หรือ 02 650 8282 (โทร.มาจองช้า ที่เต็มไม่รู้ด้วยนะจ๊ะ)

คิดว่า น่าจะเป็นเวิร์คชอปที่ดีและน่าสนใจครับ...นอกจากนี้ก็ยังอยากให้ทุกคนได้มาเยี่ยมชมบรรยากาศที่ ฟิต สตูดิโอ ของเราด้วยครับ สถาบันของเรามีกิจกรรมหลายอย่างครับไม่ใช่เพียงโยคะเพียงอย่างเดียวเท่านั้น  แล้วเราก็ตั้งใจว่า จะมีการจัดเวิร์คชอป ดีดี ทุกวันอาทิตย์สุดท้ายของแต่ละเดือน ซึ่งสามารถติดตามข่าสารต่างๆได้ที่
www.studiobyfit.com

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้พบทุกๆคนในเวิร์คชอป ของผม ขอบคุณมากครับ

นมัสเต,

จิมมี่โยคะ

วันพุธที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2553

พระศิวะ เทพแห่งการร่ายรำ ตำนานแห่งโยคะ


พระศิวะ เทพแห่งการร่ายรำ ตำนานแห่งโยคะ

ผู้ฝึกโยคะหลายๆท่าน คงพอจะทราบดีอยู่แล้วว่า พระศิวะ คือเทพแห่งการทำลายล้าง และทรงเป็นบิดาของพระพิฆเณศ นอกจากนี้แล้ว พระศิวะยังทรงเป็นศิลปิน ที่ได้รับการยอมรับว่า ทรงเป็นเจ้าของตำรับการร่ายรำ ระบำฟ้อนแห่งอินเดียเลยก็ว่าได้ ด้วยเพราะทรงเป็นเทพแห่งศิลปะการร่ายรำ ปางหนึ่งของพระศิวะที่แสดงถึงฐานะของพระองค์ชัดเจนจึงเป็นปางที่ถือได้ว่าเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายนัก ปางนั้นก็คือ ปางนาฏราช (nataraja)

ในตำนานเล่าว่า พระศิวะทรงชักชวนพระนารายณ์ปลอมแปลงโฉมเป็นสามี-ภรรยากันไป ณ ป่าแห่งหนึ่งเพื่อกำราบเหล่าดาบสที่ไม่ตั้งตนบำเพ็ญตบะและบูชาเทพอย่างที่ควร ดาบสกลุ่มนั้นประพฤติตนเหลวไหล ใฝ่ไปในทางชั่วมากกว่าจะอยู่ในศีลในธรรม

เมื่อทั้ง ๒ มหาเทพไปปรากฏตัวในป่านั้นในฐานะของโยคีหนุ่มกับภรรยาสาว (พระนารายณ์ทรงปลอมเป็นภรรยาพระศิวะ) เหล่าดาบสผู้มากกิเลสตัณหาก็พากันมาเวียนวนเกี้ยวพาราสีสาวงามภรรยาของโยคีหนุ่ม โดยไม่สนใจหรอกว่านางเป็นผู้มีคู่มีเจ้าของแล้ว บรรดาเมียๆของดาบสต่างก็ไม่วางตนว่าไม่โสดแล้วต่างก็พากันมาให้ท่าทอดสะพานโยคีรูปงามกันมิเว้นวาย เวลาผ่านไป ก็ไม่มีดาบสผู้ใดพิชิตภรรยาสาวของโยคีได้ ความพิศวาสจึงได้กลายเป็นความเคืองแค้น เหล่าดาบสจึงพากันสาปแช่งโยคีและเมียรักให้มีอันเป็นไป แต่ทว่าคำสาปนั้นกลับไม่เกิดผลใด ๆทั้งสิ้น พวกดาบสนั้นไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าโยคีนั้นคือพระศิวะและภรรยานั้นคือพระนารายณ์ อิทธิฤทธิ์เวทมนต์ใด ๆ ก็มิอาจกร้ำกรายผู้เป็นเทวะได้แน่นอน แต่ด้วยความไม่รู้นั้น จึงยังทำพวกดาบสกำเริบเสิบสานต่อไป พวกดาบสส่งยักษ์ชื่อ มุยะละกะ มาปราบ พระศิวะก็ทรงสำแดงฤทธิ์เดช ใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบอกยักษ์ไว้ แล้วก็ทรงร่ายรำไปในลีลาอันวิจิตรพิสดารยิ่งนัก บรรดาดาบสทั้งหลายจึงยอมศิโรราบ กราบขอขมาต่อพระศิวะโดยดีเมื่อได้ตระหนักว่าตนกำลังอหังการกับมหาเทพเสียแล้ว ณ เทวาลัยในเมืองจิทัมพรัม ได้มีรูปพระศิวะในท่าร่ายรำต่าง ๆ ถึง ๑๐๘ ท่าด้วยกัน

บรรดาผู้ที่สักการะบูชาพระศิวะมักจะไปบูชาพระศิวะ ณ เทวาลัยแห่งนั้นเป็นจำนวนมากในแต่ละปีตามตำนานโบราณกล่าวว่า เมื่อพระศิวะทรงตีกลองเป็นจังหวะอันไพเราะ โลกใบนี้ได้เคลื่อนไหวไปตามจังหวะกลองนั้นด้วย และเมื่อพระศิวะทรงร่ายรำเคลื่อนไหวพระองค์และพระกรพลิ้วไป ก็เป็นเหตุให้บังเกิดสุริยะจักรวาลขึ้นในบัดนั้นเอง นักระบำของอินเดียจะต้องร่ายรำในท่าบูชาพระศิวะก่อนเสมอ แล้วจึงค่อยร่ายรำในท่าอื่น ๆ ต่อไป สำหรับท่ารายรำทั้ง ๑๐๘ ท่าของพระศิวะนั้น ล้วนเป็นท่าที่ต้องใช้อวัยวะทุกส่วนของร่างกายประกอบด้วย ไม่ว่าจะเป็น แขน ขา ข้อมือ เท้า เอว อก สะโพกหรือแม้แต่กล้ามเนื้อรอบดวงตา ลีลานาฏศิลป์แบบพระศิวะนั้นทั้งงดงามและน่าเกรงขาม นอกจากนี้ นาฏลีลาของพระศิวะนั้นเป็นต้นแบบของท่าฟ้อนรำแบบไทย ๆ เราด้วย ซึ่งได้นำท่าของพระศิวะมาประยุกต์ดัดแปลง เช่นเดียวกับท่าร่ายรำระบำฟ้อนของอีกหลาย ๆ ประเทศ รวมจนถึงท่าฝึกโยคะต่างๆมากมายหลายท่า ซึ่งได้ยอมรับว่ามีต้นแบบมาจากนาฏลีลาของพระศิวะเป็นส่วนมาก ผู้ที่เป็นศิลปินในแขนงการเต้นรำหรือฟ้อนรำมักจะนิยมบูชาขอพรจากพระศิวะให้เกิดความรุ่งเรืองในชีวิต ด้วยการบูชาพระศิวะด้วยดอกลำโพง

จากตำนานข้างต้นนี้เอง จึงทำให้พระศิวะ ได้รับการยกย่องจากผู้ฝึกโยคะทั้งหลายว่า ท่านทรงเป็นปฐมบทของการฝึกโยคะ ที่เป็นตำนานกล่าวขานกันมาจนถึงปัจจุบันนี้

รบกวนทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาอ่านบล็อก ทั้งตั้งใจและบังเอิญเข้ามาอ่านก็ดี ทุกความคิดเห็นของท่านมีความสำคัญมากๆสำหรับผม โปรดช่วยแสดงความคิดเห็น ด้านล่างของบทความทุกบทความที่ท่านให้เกียรติเข้ามาอ่าน เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการปรับปรุงแก้ไข ให้กับผู้เขียนในโอกาสต่อไป หรือหากท่านต้องการส่งข้อความแสดงความคิดเห็นแบบส่วนตัวหรือเข้าไปเยี่ยมชมรูปภาพของครูจิมมี่ ก็สามารถติดต่อได้ที่ e-mail: jimmythaiyoga@yahoo.com www.facebook.com.โดยค้นหาจาก e-mail ขอบพระคุณมากๆครับ


นมัสเต,

จิมมี่โยคะ

ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก http://content.weloveshopping.com/tag/

ป้ายกำกับ

Powered By Blogger