.bmp)
โยคะ...กับเสียงรบกวนจากโทรศัพท์มือถือ(ภาคแรก)
พูดถึงการฝึกโยคะ เราย่อมต้องคิดถึงการเคลื่อนไหวในท่วงท่าที่มีสมาธิตามแบบฉบับของโยคะ แต่ถ้าหากการฝึกโยคะนั้น เป็นการฝึกในสตูดิโอ หรือศูนย์ฝึกที่มีคนเรียนอย่างน้อย 10คน แล้วดันมีเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นมา ทั้งๆที่ก็มีป้ายเขียนเตือนไว้เป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจนให้ทราบโดยทั่วกัน แต่ในกรณีที่อ่านหนังสือไม่ออกครูผู้สอนก็มักจะพูดเตือนให้ปิดเสียงโทรศัพท์มือถือก่อนคลาสจะเริ่มเสมออยู่แล้ว ผมจึงมีคำถามสำหรับทุกคนที่เข้ามาอ่าน บล็อกของผม ทั้งท่านที่เคยมีประสบการณ์ดังกล่าวแล้วก็ดีหรือยังไม่เคยเจอประสบการณ์ดังกล่าวก็ดี
คำถามแรก คือ คุณจะทำอย่างไรในกรณีที่มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในห้องฝึกโยคะ? หากคุณไม่ได้เป็นเจ้าของเสียงโทรศัพท์มือถือนั้น
ก. คิดตำหนิอยู่ในใจ
ข. หันไปมองต้นกำเนิดเสียงด้วยสีหน้าไม่พอใจ
ค. พูดเปรยๆเชิงตำหนิ แสดงความไม่พอใจให้ทราบ
ง. มองต้นกำเนิดเสียง และมองมาที่ครูผู้สอนเพื่อให้ครูแสดงบทบาท
จ. ให้อภัย ไม่คิดมากอะไร
คำถามที่สอง หากเสียงโทรศัพท์นั้นดังต่อเนื่องโดยไม่มีใครแสดงความเป็นเจ้าของ คุณจะทำอย่างไร?
(ใช้ตัวเลือกคำตอบเดียวกับ คำถามข้อแรก)
คำถามที่สาม หากคุณเป็นเจ้าของเสียงโทรศัพท์ คุณจะทำอย่างไร?
ก. รีบกล่าวคำขอโทษ และปิดโทรศัพท์ทันที
ข. รีบรับสายและเดินออกไปสนทนาด้านนอกห้องเรียน
ค. รับสายและรีบสนทนาในห้องเรียนโดยใช้เวลาให้น้อยที่สุด
ง. รับสายและสนทนาโทรศัพท์ในชั้นเรียนแบบไม่ต้องสนใจใคร
จ. ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของเสียงโทรศัพท์
คำถามที่สี่ หากคุณเป็นครูสอนโยคะที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ดังกล่าวนี้คุณจะทำอย่างไร?
(ข้อนี้ไม่มีตัวเลือก ให้ตอบเข้ามาได้ตามความคิดเห็นของแต่ละท่าน)
แล้วจะรออ่านคำตอบของทุกคนน๊ะจ๊ะ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีคนร่วมแสดงความคิดเห็นเข้ามา
รบกวนทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาอ่านบล็อก ทั้งตั้งใจและบังเอิญเข้ามาอ่านก็ดี ทุกความคิดเห็นของท่านมีความสำคัญมากสำหรับผม โปรดช่วยแสดงความคิดเห็น ด้านล่างของบทความทุกบทความ เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการปรับปรุงแก้ไข ให้กับผู้เขียนในโอกาสต่อไป ขอบคุณมากๆ ครับ
นมัสเต,
จิมมี่โยคะ
ต้องบ่นๆสิคะ ตามสไตล์ครูจิมมี่ เอาแบบตลกๆก็ได้นะคะ คนที่เป็นเจ้าของจะได้รู้ตัว คนอื่นในห้องก็จะได้ไม่หงุดหงิดด้วย เป็นขำๆไปเลย
ตอบลบแต่ถ้าเป็นครูสอนแล้วจะทำเฉยๆคงไม่ดีเท่าไหร่อ่ะค่ะ
แน่นอนอยู่แล้วครับ สำหรับผม หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวก็มักจะต้องมีการทำโทษให้จดจำไปพอสมควรล่ะครับ
ตอบลบคงเป็นครูที่ไม่ได้มาตรฐานเท่าไร แต่ไม่เคยว่า และเพื่อนๆในชั้นก็ไม่ว่า เหตุผลของคนที่ไม่ว่าก็ไม่ เคยถาม แต่สำหรับตัวเอง คิดว่าถ้าเราคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ และไม่เป็นสิ่งรบกวนมากขนาดที่เราฝึกไม่ได้ ก้น่าจะเป็นสิทธิของคนๆนั้นนะ
ตอบลบสำหรับผู้ที่แสดงความคิดเห็นเข้ามาล่าสุดที่ไม่ได้ระบุชื่อ ผมไม่ทราบเหมือนกันว่าคุณสอนโยคะอยู่ที่ไหน?ของเมืองไทย? แล้วก็อาจจะไม่ได้เกี่ยวกับมาตรฐานของครูผู้สอนอย่างชัดเจน ซึ่งต้องบอกว่าเป็นเรื่องของจิตสำนึกที่ดี ของการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมมากกว่า ซึ่งโดยปกติแล้ว ทางสตูดิโอโยคะ และฟิตเนสโดยทั่วไปก็จะมีข้อกำหนดเป็นป้ายประกาศบอกให้ทราบอย่างชัดเจนว่าไม่อนุญาตให้ใช้โทรศัพท์มือถือในคลาส เรื่องนี้ครูผู้สอนโยคะและผู้ฝึกโยคะแบบแฟนพันธุ์แท้ทุกคนทราบกันเป็นอย่างดีและถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะการใช้โทรศัพท์มือถือในคลาสในขณะที่ครูกำลังสอนอยู่หรือผู้อื่นกำลังฝึกโยคะอยู่นั้น คือการทำให้ทั้งครูและผู้ฝึกท่านอื่นเสียสมาธิ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ใช่มารยาทที่ดีสำหรับการฝึกโยคะครับ ยกเว้นเสียแต่ว่า จะเป็นการสอนแบบส่วนตัว หรือกลุ่มของผู้ฝึกโยคะที่รวมตัวเพื่อนๆที่มีความสนิทสนมกันเองมาฝึก และให้ครูมาสอนให้ซึ่งกลุ่มคนดังกล่าวนี้ก็อาจจะยอมรับในพฤติกรรมการคุยโทรศัพท์ของกันและกันได้โดยถือเป็นเรื่องปกติ
ตอบลบ