เรื่องเล่า...จากครูโยคะ

เรื่องเล่า...จากครูโยคะ เป็นการรวบรวมเรื่องราวต่างๆจากประสบการณ์การสอนโยคะของครูจิมมี่ ถ่ายทอดออกมาเป็นบทความ สอดแทรกอารมย์ขัน เหมาะกับผู้ที่สนใจในการฝึกโยคะ, ครูฝึกโยคะและทุกๆคน ทุกเพศทุกวัย



สำหรับทุกๆท่านที่เพิ่งจะเข้ามาใช้บริการ อ่านบล็อก เรื่องเล่า...จากครูโยคะ โดยครูจิมมี่ สามารถเลือกคลิ๊กเข้าไปอ่าน บทความอื่นๆได้ ที่เดือนต่างๆ ซึ่งเรียงอยู่ทางด้านขวามือของบทความ ขอบพระคุณมากครับ



ขอพลังแห่งโยคะจงอยู่กับคุณตลอดไป...นมัสเต...





วันอังคารที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

โยคะเวิร์คชอฟ ที่พัทยา โดยครูจิมมี่

โยคะเวิร์คชอฟ ที่พัทยา โดยครูจิมมี่

อาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม 2553 เวลา 8.00-17.30น.
ณ โรงแรมมณเฑียร พัทยา

7.30-8.00 น.    ลงทะเบียน ณ ฟิตเนส ของโรงแรมมณเฑียร
8.00-8.15 น.    ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการฝึกโยคะ
8.15-8.45 น.    การหายใจและการฝึกสมาธิแบบโยคะในขั้นพื้นฐาน
8.45-10.15 น.  โยคะอาสนะเพื่อความผ่อนคลายทั้งกายและจิต
10.15-10.45 น. ปราณยามะและโยคะนิทรา(การหายใจและการผ่อนคลายในแบบของโยคะขั้นพื้นฐาน)
10.45-11.00 น. พัก รับประทานอาหารว่างและเครื่องดื่ม
11.00-12.00 น. กิจกรรมสันทนาการและถ่ายรูปหมู่ที่ระลึกร่วมกัน
12.00-13.00 น. พักรับประทานอาหารกลางวัน
13.00-14.30 น. สันทนาการช่วงบ่าย และ ฟังบรรยายเชิงวิชาการความรู้เพื่อสุขภาพ
14.30-15.00 น. พัก รับประทานอาหารว่างและเครื่องดื่ม
15.00-17.30 น. โยคะอาสนะเพื่อความแข็งแรงทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ

ค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมกิจกรรม

แบบเต็มวัน 2,100 บาท (รวมอาหารว่างและอาหารมื้อกลางวัน)
แบบครึ่งวัน(เช้า หรือ บ่าย) 1,200 บาท (ไม่รวมอาหารกลางวัน)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
www.yoga-thaiessence.com
คุณวาสนา 081 862 0965 หรือ อีเมล์ yoga.thaiessence@gmail.com

วันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

อัษฎางคโยคะ เวิร์คชอฟ โดย เคน ฮาราคูม่า ที่ฟิต สตูดิโอ



อัษฎางคโยคะ เวิร์คชอฟ โดย เคน ฮาราคูม่า ที่ฟิต สตูดิโอ

ฟิต สตูดิโอ ขอเชิญแฟนพันธ์แท้โยคะทุกๆท่านเข้าร่วม อัษฎางคโยคะ เวิร์คชอฟ โดย เคน ฮาราคูม่า
วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน 2553 เวลา 7.00 - 18.30น.

ณ ฟิต สตูดิโอ อาคารมหาทุนพลาซ่า (ติดสถานี รถไฟฟ้า BTS เพลินจิต)

7.00-9.00น.  อัษฎางคโยคะ มัยซอร์ สไตล์ (600 บาท)
10.00-11.30น. อัษฎางคโยคะ ไพรมารี่ ซีรี่ (800 บาท)
13.00-14.30น. ปราณยามะ และ สมาธิ (500 บาท)
15.00-16.30น. การช่วยปรับท่าฝึกโยคะอาสนะให้มีประสิทธิภาพ (800 บาท)
17.00-18.30น. หฐะโยคะเพื่อการผ่อนคลาย (600 บาท)

ลด 10เปอร์เซ็นต์ เมื่อสมัคร ตั้งแต่ 3หัวข้อขึ้นไป

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สำรองที่นั่ง และการชำระเงิน
โทร.02 650 8282 หรือ 081 900 2525
โอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงเทพ สาขาเพลินจิต ชื่อบัญชี บริษัท ฟิต สตูดิโอ จำกัด เลขที่บัญชี 205-0-588-51-2 แฟกซ์ใบใบโอนเงินมาที่ 02 650 9464 เพื่อยืนยันการชำระเงิน

วันพุธที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ครูจิมมี่กับ Thailand Yoga Festival 2010.

(ครูจิมมี่กับภาพของตนเอง ซึ่งเป็นฉากหลังบู๊ทของสถาบันฟิต)

ครูจิมมี่กับ Thailand Yoga Festival 2010.

ก็อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วครับว่าประเทศเราจะมีมหกรรมโยคะที่ใหญ่สุดของประเทศในช่วงปลายปีของทุกๆปี ปีนี้ก็ใช้ชื่องานว่า Thailand Yoga Festival 2010. ซึ่งก็ได้ผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่30-31ตุลาคม2553 ณ โรงเรียนนานาชาติ บางกอกเปร็บ ย่านทองหล่อ สุขุมวิท

งานนี้ผมก็มีส่วนร่วมคล้ายๆกับทุกๆปีที่ผ่านมา คือ ไปประจำบู๊ทของสถาบันฟิต และก็ไปช่วยโปรโมทส่งเสริมการขายเสื่อโยคะแมนดูกะที่ผมเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้เขาอยู่ หน้าที่ ที่ผมได้รับมอบหมายเพิ่มเติมสำหรับงานปีนี้ก็คือการได้รับเกียรติจากทางโยคะเจอร์น่อลไทยแลนด์ให้เป็น 1ในทีมครู12ท่านที่นำสอนกิจกรรมไหว้พระอาทิตย์เพื่อการกุศลในวันเสาร์ที่30ต.ค.2553 ซึ่งเนื้อหาในส่วนของกิจกรรมการไหว้พระอาทิตย์108 เพื่อการกุศลนั้นผมได้กล่าวถึงไปแล้วในบทความก่อนหน้านี้

สิ่งที่จะกล่าวถึงต่อไปก็คงเป็นบรรยากาศทั่วๆไปของงานนี้ และกิจกรรมที่ผมได้มีส่วนร่วมในวันอาทิตย์ที่31ต.ค.2553, หากถามผมถึงบรรยากาศโดยรวมผมขอบอกตรงๆเลยว่ามันดูจะเงียบเหงากว่าปีที่แล้ว อันดับแรกดูจากจำนวนบู๊ทในงาน อันดับสองดูจากจำนวนผู้เข้าร่วมงาน วันแรกค่อนข้างเหงา วันที่สองบรรยากาศดีขึ้นเล็กน้อยเพราะจำนวนคนดูจะมากกว่าในวันแรก  ผมก็ไม่ได้ต้องการทำประชาวิจารณ์แต่อย่างใดแต่ก็มีการแอบสอบถามผู้มาเข้าร่วมงานบางท่านว่ารู้สึกอย่างไร

-หลายๆคนยังบอกว่าราคาแพง(แต่สำหรับผมแล้ว ผมถือว่า ราคาที่ทางโยคะเจอร์น่อลได้กำหนดขึ้นนี้ค่อนข้างสมเหตุสมผลแล้วครับ)

-หลายๆคนบอกว่าครูที่มาสอนส่วนใหญ่จะเป็นครูคนเดิมที่สอนในปีก่อนๆ น่าจะมีครูโยคะระดับแนวหน้าของโลกใครก็ได้สักคนหนึ่ง(แบบดังมากๆ ชนิดที่ผู้ฝึกโยคะทุกคนในโลกรู้จัก อาทิเช่น จอห์น เฟรนด์, เดวิด สเวนสัน, ชีวา เรย์ เป็นต้น) มาเป็นแม่เหล็กในการดึงดูดผู้ฝึกโยคะ ก็น่าจะดีไม่ใช่น้อย เมื่อทุกคนดูตัวใบโฆษณาประชาสัมพันธ์งาน ทั้งสีสันของใบปลิวและชื่อครูผู้สอนแล้ว ก็รู้สึกได้ทันทีถึงอะไรที่คล้ายๆเดิม อันนี้คงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้คนที่เคยเข้าร่วมงานนี้อาจจะลังเลใจ

-หลายๆคนบ่นว่าปีนี้ไม่มีอาหารกลางวันเลี้ยงอย่างเช่นทุกๆปีที่ผ่านมา จึงยิ่งทำให้รู้สึกว่าราคาที่กำหนดมานี้แพงมาก (แต่สำหรับผมแล้ว ทุกๆครั้งที่ผมต้องไปเข้าอบรมหรือสัมนาโยคะระดับนานาชาติ ไม่มีงานไหนเลยที่เลี้ยงอาหารกลางวัน ผู้เข้าร่วมอบรมต้องออกไปหาทานเอง) แต่เนื่องจากว่าของมันเคยมีในปีแรกๆมาถึงตอนนี้ดันไม่มี มันก็เลยกลายเป็นประเด็นขึ้นมาล่ะครับ

นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องอื่นๆอีก เช่น สถานที่, บู๊ทในงานน้อยไม่ค่อยคึกคัก, รวมไปจนถึงการประชาสัมพันธ์ ฯลฯ  ซึ่งผมก็พอจะทราบข้อมูลวงในมาคร่าวๆว่าในปีหน้าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงสถานที่ในการจัดกิจกรรมและปรับรูปแบบบางอย่าง ก็คิดว่าน่าจะมีอะไรหลายๆอย่างที่ดีขึ้นอย่างแน่นอนในปีหน้า โยคะเจอร์น่อลไทยแลนด์ สู้ๆ

สำหรับส่วนร่วมของผมในงาน Thailand Yoga Festival 2010. ส่วนของวันอาทิตย์ที่31ต.ค.2553ก็คือ ผมรีบตื่นมาแต่เช้าเพื่อมาเข้าคลาส อัษฎางคโยคะ ไพรมารี่ ซีรี่ ของครูเคน ฮารากูม่า เนื่องจากผมไม่ได้ฝึกไพรมารี่ซีรี่มานานเป็นปีแล้วเลยอยากเคาะสนิมครับ ปรากฏว่าสนิมเย๊อะกว่าที่คิดเคาะไม่ค่อยออก ช่วงแรกๆจั๊มอย่างกับมีคนจับอุ้มประครองมาวางจนคนข้างๆมองด้วยความทึ่ง ช่วงหลังๆจั๊มไม่ค่อยไหวยืนระยะไม่ไหว(หมดสภาพ คนข้างๆมองอย่างเวทนา) คงเป็นเพราะอ่อนซ้อม ก็รับแต่งานสอนจนไม่มีเวลาฝึกฝนตนเองก็เป็นอย่างนี้แหล่ะครับ

(ครูจิมมี่ถ่ายภาพคู่กับคุณน้ำผึ้งณัฐริกา)

หลังจากนั้นผมก็มาประจำบู๊ท ของสถาบันฟิต เนื่องจากบู๊ทของสถาบันฟิตมีรูปของผมที่ทำท่าโยคะประหลาดๆอยู่จึงเป็นที่ดึงดูดสายตาให้หลายๆคนเข้ามาที่บู๊ทเพื่อถ่ายรูปคู่กับรูปของผมที่ปรากฏอยู่ที่ฉากหลังของบู๊ท(แต่ไม่ค่อยมาขอถ่ายรูปกับตัวจริงสักเท่าไหร่ อื่ม...งง...) ทันใดนั้นก็มีสุภาพสตรีท่านหนึ่งรูปร่างหน้าตาเหมือนดาราที่เคยเห็นในโทรทัศน์แต่ก็ไม่อาจชี้ชัดว่าใช่หรือไม่ พอเขาให้เกียรติเข้ามาคุยกับผมจึงทำให้ทราบว่าเป็นคุณน้ำผึ้ง ณัฐริกา, เนื่องจากผมว่าเธอมีรูปหน้าหรือรายละเอียดบางอย่างบนใบหน้าที่แตกต่างไปจากเดิม จึงทำให้ผมสงสัยว่าใช่เธอหรือไม่? ซึ่งผมก็ไม่ทราบได้ว่าเป็นเพราะอะไร หลังจากที่ได้พูดคุยกับเธอในเรื่องที่เธอสงสัยเกี่ยวกับโยคะสักพักหนึ่ง เธอก็บอกผมสั้นๆว่าช่วงนี้เธอไม่ค่อยสบาย(ก็ดูแลสุขภาพด้วยแล้วกันนะครับ)

(ครูคอร่า เวน สอนเทคนิคBack bend ให้ครูจิมมี่)

จากนั้นครูคอร่า เวน ก็เดินมาคุยกับผม ผมรู้สึกถูกชะตากับเขาอย่างรุนแรงหลังจากกิจกรรม สุริยะนมัสการ108 กิจกรรมนี้นี่เองที่เธอได้ใจผมไปแบบเต็มๆ(ดังรายละเอียดที่ผมได้บรรยายไว้ในบทความที่แล้ว) เนื่องจากครูคอร่า เวนเป็นผู้มีประสบการณ์ในการสอนโยคะสูงมากๆ ผมจึงไม่ลังเลใจที่จะถามเธอถึงเทคนิคบางอย่างในการทำท่าโยคะอาสนะบางท่า ด้วยความบังเอิญที่ทั้งผมและครูคอร่า เวน เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับเสื่อโยคะแมนดูกะ จึงทำให้เธอจับผมมาฝึกให้หายข้อสงสัยที่บู๊ทโยคะโอม ซึ่งเป็นบู๊ทตัวแทนจำหน่ายเสื่อโยคะแมนดูกะในเมืองไทย ถึงแม้จะใช้เวลาแค่10-15นาที ผมก็ได้รับเทคนิคสองสามอย่างจากครูคอร่า เวน มาแบบเต็มๆเลยทีเดียว เธออธิบายให้ผมเข้าใจแบบไม่มีการกั๊กใดๆทั้งสิ้น

(ครูจิมมี่สาธิตท่านาฏราชาสนะ, โปรดสังเกตกองเชียร์ ช่องหน้าต่างด้านบน)

(นักเรียนของผมได้รับรางวัลจากโยคะโอม)

(คุณวนิดา, โยคะโอม มอบของที่ระลึกให้ครูจิมมี่)

จากนั้นพักใหญ่ก็เป็นเวลาที่ผมจะต้องช่วยโปรโมทสนับสนุนการขายเสื่อโยคะแมนดูกะที่ผมเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์อยู่ ด้วยการสาธิตท่าโยคะอาสนะต่างๆที่ด้านหน้าบู๊ทของสถาบันฟิตและบู๊ทของโยคะโอม(บู๊ทของเราติดกัน) คนแถวๆนั้นที่เดินผ่านไปผ่านมาก็มามุงดูของแปลกกันเพียบล่ะครับ

พอช่วงเย็นหลังจากที่จบงาน Thailand Yoga Festival 2010. ผมเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับเกียรติเชิญไปร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำสำหรับทีมงานและครูผู้สอนของกิจกรรมครั้งนี้(พูดง่ายๆก็คือ งานเลี้ยงโยคีดีๆนี่เองล่ะครับ) เนื่องจากครูลีฟ เพาเวล ไม่ค่อยคุ้นเคยกับการเดินทางในกรุงเทพสักเท่าไหร่นัก ผมจึงทำหน้าที่พาครูลีฟ เพาเวลไปยังร้านอาหารที่ทางฝ่ายจัดงานได้นัดพวกเราไว้ ระหว่างที่จะขึ้นรถไฟฟ้าก็ได้เจอกับครูราเชล วิลสัน(มาสอนงานนี้แทน เบรท ชอรว์, โยคะฟิต) เธอมากับคู่มั่นสุดหล่อของเธอล่ะครับ เราจึงร่วมเดินทางไปด้วยกันโดยมีผมเป็นผู้นำทาง ก็ไม่ไกลจากสถานที่จัดงานมากนัก แค่สถานีรถไฟฟ้าเดียวเท่านั้นเอง อาหารก็เป็นมังสวิรัติทุกอย่าง มีอย่างเดียวที่ดูจะขัดๆกับคอนเซฟ ก็คือไวน์ ซึ่งเขาดื่มกันเกือบทั้งนั้น ยกเว้นผู้ที่เป็นชาวไทยและอินเดียที่ไม่ดื่ม(ผมก็ไม่ดื่มครับ)  ฮาสุดๆก็คือ ในช่วงที่จะต้องแยกย้ายสลายตัวกันกลับ ไวน์ที่ทางเจ้าภาพได้เตรียมไว้2ขวด มันดันเหลืออยู่มากกว่าครึ่งขวด จึงทำให้ ครูคอร่า เวน ขอจุกก๊อกกลับมาปิดขวดเพื่อนำกับไปดื่มต่อที่โรงแรม แต่เด็กเสิร์ฟดันบอกว่าได้ทิ้งจุกก๊อกไปแล้ว ผมจึงบอกให้เด็กเสิร์ฟนำถุงพลาสติกมาปิดปากขวดแล้วใช้ยางลัดไว้ จากนั้นครูคอร่า เวนก็จับขวดไวน์ยัดใส่กระเป๋าสะพายของเธอ แต่กระเป๋าของครูคอร่า เวนดูมันจะเล็กไปสักหน่อยจึงทำให้คอขวดและปากขวดไวน์ จำต้องโผล่ออกมาจากกระเป๋า พรีเซนต์ให้เห็นถึงปากขวดที่ห่อหุ้มด้วยพลาสติกและมียางลัดไว้อย่างแน่นหนา(ประมาณว่าไวน์ไม่มีโอกาสที่จะหกได้นอกเสียจากขวดจะแตกเท่านั้น) จนเป็นเป้าสายตาให้คนอื่นๆเห็นและพูดแซวกันอย่างสนุกสนาน(ฮากระจาย)

(ภาพหมู่ ครูจิมมี่ไม่ใช่เจ้าภาพแต่ไปอยู่หัวโต๊ะ ซะงั้น)

ตอนขากลับเนื่องจากครูคอร่า เวนและครูประสาท รังเนกา พักอยู่โรงแรมที่ค่อนข้างใกล้กับคอนโดฯของผม ผมจึงรับอาสา พาสองคนนี้ไปส่งที่โรงแรม แต่ทันใดนั้นผู้ร่วมก๊วนของเราก็เพิ่มขึ้นเมื่อครูเก๋, รสสุคนธ์ ซันจวน "บอกว่าไปด้วยกันซิ เก๋เอารถมา ไปทางนั้นพอดี" เราเลยออกเดินทางไปด้วยกัน 4คน ทันใดนั้นครูคอร่า เวน ก็พูดว่า เก๋เป็นไปได้ไหมที่จะผ่านไปแวะซื้อข้าวเหนียวมะม่วงสุดอร่อยร้านโปรดของเธอ ที่อยู่แถวๆปากซอยทองหล่อ ซึ่งเมื่อเธอมากรุงเทพทีไรเธอจะต้องมาซื้อข้าวเหนียวมะม่วงร้านนี้ทานทุกๆครั้งไป(ก็ไม่มีใครขัดศรัทธาครับ พวกเราก็ไปกันทั้งก๊วน) ซื้อปุ๊บแกะกล่องทานปั๊บมันตรงหน้าร้านนั่นแหล่ะ แต่ทานกันในรถของครูเก๋(พวกเราทั้ง4คนจึงกลายเป็นก๊วนข้าวเหนียวมะม่วงไปโดยปริยาย)

(ครูประสาท, ครูจิมมี่และครูคอร่า)

คืนนั้นต่างก็สนุกสนานกันไปพอสมควร งานนี้ทำให้ผมได้รู้จักกับครูสอนโยคะหลายๆท่านมากยิ่งขึ้นและถือเป็นการสร้างมิตรภาพอันดีงามหลายๆอย่างระหว่างพวกเราซึ่งเป็นครูสอนโยคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งก๊วนข้าวเหนียวมะม่วง ผมจึงทำข้อตกลงกับครูคอร่า เวน และครูประสาท รังเนกา ว่าในครั้งต่อๆไปหากเขาต้องมาเมืองไทยอีกล่ะก็ จะต้องติดต่อผมและมาเปิดเวิร์คชอฟที่ฟิตสตูดิโอของผม

ขอมิตรภาพอันดีงามจงอยู่คู่กับผู้ฝึกโยคะทุกๆคนและผมตลอดไป

รบกวนทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาอ่านบล็อก ทั้งตั้งใจและบังเอิญเข้ามาอ่านก็ดี ทุกความคิดเห็นของท่านมีความสำคัญมากๆสำหรับผม โปรดช่วยแสดงความคิดเห็น ด้านล่างของบทความทุกบทความที่ท่านให้เกียรติเข้ามาอ่าน เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการปรับปรุงแก้ไข ให้กับผู้เขียนในโอกาสต่อไป หรือหากท่านต้องการส่งข้อความแสดงความคิดเห็นแบบส่วนตัวหรือเข้าไปเยี่ยมชมรูปภาพของครูจิมมี่ ก็สามารถติดต่อได้ที่ e-mail: jimmythaiyoga@yahoo.com www.facebook.com. โดยค้นหาจาก คำว่า Jimmy Yoga หรือ e-mail ขอบพระคุณมากๆครับ

นมัสเต,

จิมมี่โยคะ

สุริยนมัสการ 108 (กิจกรรมไหว้พระอาทิตย์เพื่อการกุศล) ในงาน Thailand Yoga Festival 2010.

(ครูทั้ง 12ท่านยืนโพสท่าเรียงกันตามลำดับการสอน)

สุริยะนมัสการ 108 (กิจกรรมไหว้พระอาทิตย์เพื่อการกุศล) ในงาน Thailand Yoga Festival 2010.

ก็ได้ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ สำหรับมหกรรมโยคะที่ถือว่าใหญ่ที่สุดของบ้านเรา Thailand Yoga Festival 2010. เสาร์ที่30  และอาทิตย์ที่31 ตุลาคม 2553 ซึ่งปีนี้ได้ใช้สถานที่ในการจัดงานที่โรงเรียน นานาชาติ บางกอกเปร็บ(ใกล้สถานีรถไฟฟ้าทองหล่อ ปีที่แล้วก็จัดงานนี้ที่นี่แหล่ะครับ)

(ครูทั้ง 12ท่าน เตรียมความพร้อมก่อนการสอน)

กิจกรรมที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นสีสันของงานนี้ก็คือ สุริยะนมัสการ 108 (กิจกรรมไหว้พระอาทิตย์เพื่อการกุศล) เพราะว่ารวบรวมครูโยคะถึง 12ท่านด้วยกันมานำสุริยะนมัสการในสไตล์ต่างๆกันตามความถนัดของครูแต่ละท่าน(ก็มีผมเป็นครู 1ใน12ท่านด้วยครับ) จากหมายกำหนดการเดิม กิจกรรมนี้จะจัดขึ้นวันเสาร์ที่30 ต.ค.เวลา 18.00-20.00น. แต่ทางผู้จัดงานได้ขอเปลี่ยนแปลงเวลามาเป็น 13.00-15.00น.วันเดิม  ทุกอย่างก็เป็นไปแบบเรียบๆง่ายๆตามที่ฝ่ายจัดงานต้องการคือ ก็จัดลำดับการสอนของครูแต่ละท่านกัน มันตอนก่อนบ่ายโมงวันสอนจริงนั่นเลยครับ ก็ตื่นเต้นได้ลุ้นดีเหมือนกันเหมือนฟังผลสอบเอ็นทรานซ์ ครูทั้ง 12ท่านมายืนรวมตัวกันฟังผลว่าใครจะสอนก่อนสอนทีหลัง พอทราบผล ผมก็ต้องถึงกับเข่าอ่อนเลยล่ะครับ เมื่อฝ่ายจัดบอกว่าครูจิมมี่สอนก่อนเป็นคนแรก แต่ในความคิดของผมก็คือ ครูที่ควรจะเป็นผู้สอนเปิดงาน น่าจะต้องเป็นที่ยอมรับของผู้ฝึกโยคะทุกคนในงานนี้และมีความอาวุโสประมาณหนึ่ง สำหรับผมแล้วครูทั้ง 12ท่านที่ได้รับเชิญมาสอนในงานนี้ ผมถือว่าเป็นครูที่มีอายุน้อยที่สุด(จริงๆครับ ไม่ได้โม้) ผมจึงทำการถามประชามติของครูท่านอื่นๆทั้ง 11ท่าน จึงเห็นพร้อมตรงตามกันว่า ให้ครูเคน ฮารากูม่า เป็นผู้สอนเปิดพิธีน่าจะเหมาะสมที่สุด ผมจึงรอดตัวไป หลังจากนั้นครูบางท่านก็มีการขอสลับตำแหน่งลำดับการสอนกันไปมาพอประมาณจนฝ่ายจัดงานเกือบงง แต่ก็ลงตัวจนได้ในที่สุด สรุปผมได้สอนเป็นคนสุดท้าย(ไม่อยากเป็นคนแรก แต่ขอเป็นคนสุดท้าย ฮิๆๆ)

(ครูจิมมี่ ขณะที่กำลังสอน)

ตามข้อกำหนดคือ ครู 12ท่าน ผลัดกันสอนสุริยะนมัสการท่านละ 9รอบ คนแรกมีงานเพิ่มคือต้องนำวอร์มอัพ, อบอุ่นร่างกายด้วย และคนสุดท้ายก็ต้องรับหน้าที่เพิ่มด้วยเช่นกันคือการนำผ่อนคลายโยคะนิทราท่าศพอาสนะ(อันนี้ คืองานที่ผมได้รับเพิ่มล่ะครับ)

ครูบางท่านก็สอนด้วยความกระชับรวดเร็วว่องไว ครูบางท่านก็สอนแบบเรื่อยๆไม่ต้องรีบไม่ต้องเร่ง ตามหมายกำหนดการจริงๆเราเริ่มกิจกรรมตอนบ่ายโมงก็ควรจะเสร็จสิ้นกิจกรรมตอนบ่ายสามโมงตรง แต่พอถึงบ่ายสามโมงตรงเพิ่งสอนไปได้ประมาณ 8ท่านเองครับ จึงทำให้ผมต้องยืนเกร็งอยู่ว่าผมซึ่งสอนเป็นคนสุดท้ายจะได้สอนไหมเนี่ยะ? เพราะในห้องที่เราจัดกิจกรรมนี้ต้องมีคลาสต่อตอนเวลา 15.30น. ครูที่สอนในลำดับต้นๆ เมื่อหมดหน้าที่เขาก็ค่อยๆสลายตัวกันไปทีละคนสองคน แต่ก็ยังมีครูอีกหลายท่านที่รออยู่จนจบกิจกรรม และถือว่าเป็นการให้กำลังใจครูที่สอนในลำดับท้ายๆ

เนื่องจากกิจกรรมสุริยะนมัสการ 108นี้ใช้เวลาค่อนข้างยาวนาน ดังนั้นผู้ฝึกบางท่านที่เข้าร่วมกิจกรรมก็อาจจะค่อยๆสลายตัวไปบ้างเล็กน้อยถึงปานกลาง พอมาถึงคิวสอนของผมซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้สอนคนสุดท้ายผู้ฝึกจึงบางตาลงไปเล็กน้อย จึงทำให้ครูคอร่า เวน แสดงสปิริตลงมาร่วมฝึกด้วยเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้ผม นอกจากนี้ยังมี ครูประสาท รังเนกา(ชาวอินเดีย), ครูวีณา เศรษฐี, ครูเก๋ รสสุคนธ์ ซันจวน คอยยืนคุมเชิงให้กำลังใจอยู่ด้านข้าง เนื่องจากสอนในลำดับใกล้ๆกัน ซึ่งก็เหลือเวลาแค่ไม่ถึง10นาทีให้ผมสอน ดังนั้นจาก 9รอบ ผมจึงนำสุริยะนมัสการไปเพียง 3รอบเท่านั้น แล้วจึงนำทุกๆคนไปสู่การผ่อนคลายโยคะนิทราท่าศพอาสนะ ก็เป็นอันว่ากินเวลาของคลาสที่เขาจะต้องมาสอนต่อไปเล็กน้อยแล้วครับ

ภาพโดยรวมของกิจกรรมนี้ ก็ถือว่าผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ถึงแม้นจะมีบางสิ่งบางอย่างยังขาดๆเกินๆอยู่บ้างก็ต้องถือโอกาสนี้กราบขอบพระคุณผู้ฝึกโยคะทุกๆท่านที่เข้าร่วมกิจกรรมสุริยนมัสการ 108 เพื่อการกุศล,
ขอบคุณโยคะเจอร์น่อลไทยแลนด์ที่ได้ให้โอกาสทำให้ผมมีส่วนร่วมสำคัญในกิจกรรมครั้งนี้, ขอบพระคุณคุณครูทุกๆท่านที่มาร่วมสอนและร่วมเป็นกำลังใจให้กันและกัน

หวังว่าคงจะมีกิจกรรมดีๆแบบนี้ ให้ผู้ฝึกโยคะได้เข้าร่วมอีก ตามความเหมาะสมแก่เวลาและโอกาส

ขอพลังแห่งโยคะจงอยู่กับผู้ฝึกโยคะทุกๆคนและผมตลอดไป

รบกวนทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาอ่านบล็อก ทั้งตั้งใจและบังเอิญเข้ามาอ่านก็ดี ทุกความคิดเห็นของท่านมีความสำคัญมากๆสำหรับผม โปรดช่วยแสดงความคิดเห็น ด้านล่างของบทความทุกบทความที่ท่านให้เกียรติเข้ามาอ่าน เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการปรับปรุงแก้ไข ให้กับผู้เขียนในโอกาสต่อไป หรือหากท่านต้องการส่งข้อความแสดงความคิดเห็นแบบส่วนตัวหรือเข้าไปเยี่ยมชมรูปภาพของครูจิมมี่ ก็สามารถติดต่อได้ที่ e-mail: jimmythaiyoga@yahoo.com www.facebook.com. โดยค้นหาจาก คำว่า Jimmy Yoga หรือ e-mail ขอบพระคุณมากๆครับ


นมัสเต,

จิมมี่โยคะ

ป้ายกำกับ

Powered By Blogger