เรื่องเล่า...จากครูโยคะ
เรื่องเล่า...จากครูโยคะ เป็นการรวบรวมเรื่องราวต่างๆจากประสบการณ์การสอนโยคะของครูจิมมี่ ถ่ายทอดออกมาเป็นบทความ สอดแทรกอารมย์ขัน เหมาะกับผู้ที่สนใจในการฝึกโยคะ, ครูฝึกโยคะและทุกๆคน ทุกเพศทุกวัย
สำหรับทุกๆท่านที่เพิ่งจะเข้ามาใช้บริการ อ่านบล็อก เรื่องเล่า...จากครูโยคะ โดยครูจิมมี่ สามารถเลือกคลิ๊กเข้าไปอ่าน บทความอื่นๆได้ ที่เดือนต่างๆ ซึ่งเรียงอยู่ทางด้านขวามือของบทความ ขอบพระคุณมากครับ
ขอพลังแห่งโยคะจงอยู่กับคุณตลอดไป...นมัสเต...
สำหรับทุกๆท่านที่เพิ่งจะเข้ามาใช้บริการ อ่านบล็อก เรื่องเล่า...จากครูโยคะ โดยครูจิมมี่ สามารถเลือกคลิ๊กเข้าไปอ่าน บทความอื่นๆได้ ที่เดือนต่างๆ ซึ่งเรียงอยู่ทางด้านขวามือของบทความ ขอบพระคุณมากครับ
ขอพลังแห่งโยคะจงอยู่กับคุณตลอดไป...นมัสเต...
วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
ศพอาสนะ แต่ไม่รู้สึกสงบ เป็นเพราะอะไรกัน?
ศพอาสนะ แต่ไม่รู้สึกสงบ เป็นเพราะอะไรกัน?
มันเหมือนเป็นความอัดอั้นตันใจ ในชีวิตการเป็นครูสอนโยคะของผม ซึ่งวันนี้ต้องระบายให้ทราบโดยทั่วกัน และฝากบอกต่อๆกันด้วยน๊ะครับ กับสิ่งที่ผมจะพูดถึงต่อไปนี้
เกือบทุกครั้งที่ผมสอนโยคะ ช่วงใกล้จะจบคลาสก็จะต้องเหลือเวลาไว้เล็กน้อยเพื่อให้นักเรียนได้ผ่อนคลายในท่าศพอาสนะ มีเกจิทางด้านโยคะหลายท่านได้กล่าวไว้ว่า "คลาสโยคะจะสมบูรณ์แบบได้อย่างไรถ้าไร้ซึ่งการผ่อนคลายในท่าศพอาสนะ" ชัดเจนได้ใจมากๆ
และถ้าเราไม่สามารถสงบ นิ่ง หรือผ่อนคลายในท่าศพอาสนะ มันเป็นเพราะอะไรกัน?
การที่เราไม่รู้สึกสงบ ในขณะที่ทำท่าศพอาสนะ ผมขอจำแนกออกเป็น 2ปัจจัยด้วยกัน คือ
1. ปัจจัยภายใน คือเกิดจากตัวเราเองเป็นหลักเลย ไม่เกี่ยวกับใคร อาจเป็นเพราะมีเรื่องให้ต้องคิดวุ่นวายมากมายเกินเหตุ จนไม่สามารถข่มตาลงได้ และรู้สึกถึงความว่นวายมารบกวนจิตใจตลอดเวลา อาจจะเป็นภาระทางด้านการงาน ครอบครัว เศรษฐกิจการเงิน สังคม ที่มีผลโดยตรง ส่งผลให้เกิดเป็นความเครียดในใจ และเฝ้าคอยแต่คิดถึงสิ่งเหล่านั้นตลอดเวลา แนวทางในการแก้ไขปัญหานี้คือ ต้องปล่อยวาง(พูดง่ายแต่ทำยากสำหรับบางคน)
2. ปัจจัยภายนอก คือการที่สิ่งแวดล้อมและคนรอบข้าง มาทำปฏิกิริยากับอารมณ์ความรู้สึกของเรา ณ.ช่วงเวลาขณะนั้น จึงส่งผลให้จิตใจเกิดการวอกแวกไม่สงบ ทั้งๆที่จริงๆแล้วก็ไม่ได้มีความเครียด กำลังผ่อนคลายแท้ๆ แต่ดันมีสิ่งแปลกปลอมจากภายนอกมากระทบจิตใจ ทำให้ไร้ความสงบ
ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว พวกที่อยู่ในกลุ่มแรก (ปัจจัยภายในที่ทำให้ไม่สงบ) มักจะเป็นผู้สร้างปัญหาให้กับกลุ่มที่สอง เพราะเมื่อกลุ่มแรก พอไม่สงบ ไม่เข้าใจถึงการผ่อนคลาย ก็มักจะเดินออกจากคลาสในช่วงซึ่งคนอื่นกำลังผ่อนคลายในท่าศพอาสนะ
นักเรียนของผมหลายๆคนก็ไม่ค่อยจะเข้าใจถึงการผ่อนคลาย(ไอ้พวกปัจจัยภายในรุนแรง) ทุกครั้งจะต้องมีคนลุกเดินออกจากห้องในขณะที่กำลังทำการผ่อนคลายในท่าศพอาสนะ ซึ่งช่วงนั้นแหล่ะครับ เป็นช่วงสำคัญ คนเป็นครูสอนโยคะจะต้องสร้างความรู้สึกที่ผ่อนคลายด้วยคำพูด และส่งต่อความรู้สึกผ่อนคลายนี้ไปยังนักเรียนที่กำลังเริ่มนอนหลับตาในท่าศพอาสนะ ด้วยเทคนิคของโยคะนิทรา เป็นช่วงที่นักเรียนควรจะต้องใช้สมาธิเพื่อเข้าสู่การผ่อนคลาย และในช่วงนี้ นี่เอง! เราก็จะได้ยินเสียงคนเดินย่อง เราก็จะได้ยินเสียงของพวงกุญแจที่กระทบกัน กุ๊งๆกิ๊งๆ เราก็จะได้ยินเสียงของการลากเบาะ ฟื้ดๆ ฟาดๆ เราก็จะได้ยินเสียงของการเปิดประตูห้อง ถ้ามีเยื่อใยหน่อยเสียงที่ประตูปิดกลับแบบอัตโนมัติก็จะเบาจนเกือบไม่รู้สึกถึงการเปิดปิด แต่หลายๆครั้งก็ไม่มีเยื่อใย เสียงประตูที่ปิดกลับแบบสวิงกลับมาเต็มที่ คงจินตนาการได้น๊ะครับ ตอนที่เสียงประตูกระทบกันอย่างจัง อยากจะเดินตามไปตบกระบาน เขาผู้นั้นมากๆ แทนที่นักเรียนที่ยังคงนอนอยู่ในท่าศพอาสนะจะได้ผ่อนคลายอย่างสงบ หากเป็นศพจริงๆก็คงต้องบอกตรงๆว่านอนตายตาไม่หลับแน่ๆครับ
เขาไม่เข้าใจเรื่องของการผ่อนคลายก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าพอมีมารยาทอยู่บ้าง น่าจะอดทนรอสักนิด ไม่น่ารบกวนสมาธิด้วยการ เดินออกจากห้องเรียนในขั้นตอนนี้ จนสร้างเสียงรบกวนให้ผู้ที่ยังฝึกอยู่ คำตอบที่ได้รับคือต้องรีบกลับ ผมก็คิดในใจว่าถ้ารีบมากนักก็ไม่น่าจะมาเรียนโยคะเลยจริงๆ เกรงใจ๋ เกรงใจ
อย่างที่หลายๆคนที่ฝึกโยคะจะทราบดีว่ามันเป็นท่าแสนสุข เป็นไฮไล้ท์ ของการฝึกโยคะเลยก็ว่าได้ แต่ดันมีชนกลุ่มน้อยมาทำลายความสุข (ต้องทำใจ) คนเป็นครูสอนโยคะ หากพูดอะไรที่รุนแรงมากเกินไป ก็อาจจะเกิดความไม่พอใจ และเป็นเรื่องที่ครูสอนโยคะหลายๆคนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
อย่างไรก็ตามแต่ ทุกชีวิตล้วนย่อมแตกต่างกัน แต่ทุกชีวิตสามารถสร้างความสมดุลย์ให้ชีวิตตนเองได้ และก็ไม่ควรปล่อยให้ อารมณ์อันขุ่นมัวมามีอำนาจเหนือจิตใจของตัวเราเอง ควรหาเวลาทำความเข้าใจกับชีวิตของตนเองให้มากขึ้น ควรมีการให้รางวัลกับชีวิตด้วย การผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ หรือใช้เวลาว่างสร้างสมดุลย์ให้ชีวิต บางคนคิดว่าโยคะจะช่วยสร้างสมดุลย์ให้ชีวิตของเขาได้ โดยส่วนตัวของผมเห็นด้วยและคิดว่าเป็นไปได้สูง แต่ก็คงต้องใช้เวลาพอสมควร และเวลาที่จะใช้ของแต่ละคนก็ย่อมไม่เท่ากันอย่างแน่นอน และเมื่อคุณรู้จักตัวคุณเองเพียงพอแล้ว อาจจะไม่ต้องเสียเวลาในชีวิตของคุณไปกับความสับสนวุ่นวายโดยเปล่าประโยชน์
ดีใจด้วยสำหรับคนที่เจอสมดุลย์ในชีวิตแล้ว และเป็นกำลังใจให้เสมอสำหรับคนที่ยังไม่เจอสมดุลย์
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะพบกับความสมดุลย์แห่งชีวิตของตนเองในไม่ช้านี้
รบกวนทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาอ่านบล็อก ทั้งตั้งใจและบังเอิญเข้ามาอ่านก็ดี ทุกความคิดเห็นของท่านมีความสำคัญมากสำหรับผม โปรดช่วยแสดงความคิดเห็น ด้านล่างของบทความทุกบทความ เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการปรับปรุงแก้ไข ให้กับผู้เขียนในโอกาสต่อไป ขอบคุณมากๆ ครับ
นมัสเต,
จิมมี่โยคะ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ป้ายกำกับ
- Jimmy Thai Yoga (75)
- ่่Jimmy Yoga (1)
พึ่งจะเรียนโยคะค่ะ แล้วก็คิดว่าตัวเองหลงรักเข้าแล้ว
ตอบลบพึ่งเข้าใจว่าท่าศพตอนจบมีความสำคัญ
ตอนเข้าเรียนก็แค่นึกรำคาญว่าทำไมเค้าถึงไม่อยู่จนจบคลาส แค่นิดเดียวเอง
ตอนนี้พออ่านบทความแล้ว...รู้สึกเสียดายกับคนพวกนั้นจริงๆ
ขอบคุณครูจิมมี่ค่ะ
น้อย