เรื่องเล่า...จากครูโยคะ

เรื่องเล่า...จากครูโยคะ เป็นการรวบรวมเรื่องราวต่างๆจากประสบการณ์การสอนโยคะของครูจิมมี่ ถ่ายทอดออกมาเป็นบทความ สอดแทรกอารมย์ขัน เหมาะกับผู้ที่สนใจในการฝึกโยคะ, ครูฝึกโยคะและทุกๆคน ทุกเพศทุกวัย



สำหรับทุกๆท่านที่เพิ่งจะเข้ามาใช้บริการ อ่านบล็อก เรื่องเล่า...จากครูโยคะ โดยครูจิมมี่ สามารถเลือกคลิ๊กเข้าไปอ่าน บทความอื่นๆได้ ที่เดือนต่างๆ ซึ่งเรียงอยู่ทางด้านขวามือของบทความ ขอบพระคุณมากครับ



ขอพลังแห่งโยคะจงอยู่กับคุณตลอดไป...นมัสเต...





วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2553

อาจารย์กวี แนะนำเรื่องปตัญชลีโยคะสูตร ที่สถาบันฟิต

อาจารย์กวี แนะนำเรื่องปตัญชลีโยคะสูตร ที่สถาบันฟิต

เนื่องจาก การสอนหลักสูตรครูฝึกโยคะ ที่ผมรับผิดชอบที่สถาบันฟิต ช่วงหลังมานี้มีผู้ให้ความสนใจเยอะมาก และก็มีบางหัวข้อ ที่ผมมีความรู้อยู่บ้างเพียงนิดหน่อยจึงคิดว่า น่าจะเชิญผู้รู้ตัวจริงของวงการโยคะในบ้านเรามา ช่วยบรรยายให้นักเรียนในคอร์สฟัง เพื่อจะได้เกิดประโยชน์สูงสุด เกี่ยวกับที่มาที่ไปเบื้องลึกของโยคะ และปตัญชลีโยคะสูตร ก็จึงทำให้ผมนึกถึงท่านอาจารย์กวี คงภักดีพงษ์ ผู้อำนวยการสถาบันโยคะวิชาการ คนในวงการโยคะบ้านเราทั้งหลายต่างก็ให้การยอมรับท่านว่าเป็นกูรูทางด้านโยคะตัวจริงอีกคนหนึ่งของบ้านเรา โดยเฉพาะทางด้านวิชาการเกี่ยวกับศาสตร์ของโยคะแบบดั้งเดิม

ผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่คอยติดตามผลงานการเขียนหนังสือเกี่ยวกับโยคะของท่าน ตั้งแต่บทความในนิตยสารหมอชาวบ้านยุคแรกๆ รวมจนถึงวารสาร,จุลสารโยคะสารัตถะ ของสถาบันโยคะวิชาการ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมไม่ได้รู้จักกับท่าน เคยพบเจอท่านครั้งหนึ่งก็คือ ตอนที่นิตยสารโยคะเจอร์น่อล ไทยแลนด์ จัดงานที่สโมสรกองทัพบก ผมได้มีโอกาสไปออกบู๊ทกับทางสถาบันฟิตเพื่อโปรโมท คอร์สครูฝึกโยคะของสถาบัน  ผมจึงได้ซื้อหนังสือของอาจารย์กวี พร้อมกับขอให้ท่านเซ็นต์สลักที่หนังสือให้  หลายคนบอกว่าท่านใจดี มีอะไรโทรไปคุยได้ ผมจึงตัดสินใจสืบหาเบอร์โทรของอาจารย์กวี และโทรไปเรียนเชิญท่านมาเป็นวิทยากรรับเชิญให้กับทางสถาบันของเรา พออาจารย์กวีรับสายผมก็ต้องรีบแนะนำตัวก่อนเลยครับ เพราะแน่นอน ท่านคงจำผมไม่ได้แน่ๆ ผมก็เป็นเด็กรุ่นใหม่อีกคนหนึ่งที่เพิ่งจะหันมาฝึกโยคะได้ไม่นานนัก แต่ท่านก็คุยกับผมอย่างมีอัธยาศัยไมตรี และท่านก็รีบเช็คเวลา ตารางการสอนของท่านให้ผมทราบทันที ผมพอจะทราบดีว่าท่านก็มีภาระงานสอนที่ต้องเดินทางไปบรรยายตามสถานที่ต่างๆมากมาย ในที่สุดก็นัดหมายได้เวลาลงตัวกัน ผมตกลงให้ท่านอาจารย์กวี ช่วยบรรยายเรื่องปตัญชลีโยคะสูตร เป็นสิ่งที่นักเรียนหลายคนของผมสงสัยมากๆว่า โยคะที่เราฝึกกันอยู่ทุกวันนี้มีความแตกต่างหรือเป็นไปตามแนวทางที่ท่านปตัญชลีได้เคย เรียบเรียงไว้ในโยคะสูตรหรือไม่?

พอท่านอาจารย์กวี ได้ยินเข้าว่าเชิญท่านมาบรรยายเรื่องปตัญชลีโยคะสูตร ท่านบอกผมว่า ท่านดีใจมากเพราะไม่ค่อยมีที่ไหน เชิญท่านไปบรรยายเรื่องนี้ แล้วอาจารย์กวี ก็ขอข้อมูล ว่านักเรียนของผม มีประมาณกี่คน? อายุเท่าไรกันบ้าง? การศึกษาระดับไหนบ้าง? ทุกคนเรียนเพื่อจะไปเป็นครูโยคะหมดเลยหรือ? ทำเอาผมถึงกับงง ตั้งตัวเกือบไม่ติด บอกตามตรงเลยว่าคำถามที่ท่านอาจารย์ถามเกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐานดังกล่าว ในบางครั้งผมแทบจะไม่เคยได้ใส่ใจเลย จึงทำให้ผมต้องขอเวลากลับไปรวบรวมข้อมูลจากใบสมัครเรียนของนักเรียนทุกคน  และนี่เป็นสิ่งแรกที่ผมได้รับจากอาจารย์กวี เป็นเหมือนคำสอนทางอ้อมที่ผมรู้สึกว่า ยังมีอะไรอีกมากมายที่ผมต้องเรียนรู้ และก็คิดว่าตัดสินใจไม่ผิดเลยจริงๆ ที่ได้เชิญท่านอาจารย์กวีมาในครั้งนี้

จากสิ่งที่อาจารย์กวีได้ถามข้อมูลเบื้องต้นของผู้เข้าอบรม ทำให้ผมเกิดการเรียนรู้ขึ้นมาทันทีว่า การเตรียมตัวก่อนการสอนเป็นเรื่องสำคัญ ต่อจากนั้นก็เป็นหัวข้อที่เราต้องสอน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องทราบข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายด้วย เพราะการยึดติดกับหัวข้อการสอนมากเกินไป อาจทำให้เราลืมคิดถึงกลุ่มเป้าหมายและความต้องการที่แท้จริงของพวกเขา

พอถึงวันนัดหมาย ท่านอาจารย์กวีก็แน่นอนมากๆครับ ท่านมาก่อนเวลาเสมอ เพื่อจัดเตรียมอุปกรณ์และสถานที่ซึ่ง อาจารย์ก็เตรียมคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คคู่ใจมาต่อเข้ากับเครื่องฉายโปรเจคเตอร์ที่ทางสถาบันของผมมีอยู่แล้ว เสร็จเรียบร้อย ท่านอาจารย์ก็เป็นฝ่ายนั่งรอนักเรียนอยู่ในห้องเรียน เตรียมพร้อมที่จะถ่ายทอดความรู้(สุดยอดจริงๆเลย) เพราะหลายต่อหลายครั้งที่ผมเคยพบก็คือนักเรียนต้องไปนั่งรออาจารย์เมื่อนักเรียนพร้อมอาจารย์ถึงจะเริ่มสอน นักเรียนหลายคนของผมที่เดินทอดน่องแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวพอเห็นว่าท่านอาจารย์กวีซึ่งเป็นวิทยากรพิเศษมานั่งรออยู่ ก็เลยต่างรีบกระตุ้นซึ่งกันและกัน เข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว

เมื่อทุกคนพร้อมอาจารย์กวีก็เริ่มบรรยายทันที ถึงเรื่องราวและแง่มุมต่างๆที่ทำให้เรามาสนใจ เรื่องของปตัญชลีโยคะสูตร อาจารย์กวีถามทุกคนว่า เคยเห็นหนังสือปตัญชลีโยคะสูตรที่มีขายอยู่ตามท้องตลาดไหม? มีเนื้อหาเยอะหลายหน้าไหม? ทุกคนตอบอย่างไม่ต้องคิดเลยว่า หลายหน้าและบางครั้งก็อ่านไม่ค่อยเข้าใจด้วย อาจารย์กวีแอบยิ้มเล็กๆและกล่าวต่อว่า จริงๆแล้วต้นตำหรับของปตัญชลีโยคะสูตรไม่ได้มีเนื้อหาเยอะอะไรเลย ปตัญชลีโยคะสูตร แบ่งออกเป็น 4ส่วนคือ สมาธิปาท 51บท, สาธนปาท 55บท, วิภูติปาท 55บท และ ไกวัลยปาท 34บท รวมทั้งหมดได้ 195บท ซึ่งหากจะพูดกันจริงๆแล้ว สิ่งที่ท่านได้เรียบเรียงไว้ใช้เพียงกระดาษ ขนาด A4 จำนวน 3-4แผ่น ก็เหลือเฟือที่จะบันทึก เพราะทั้ง4ส่วนที่ได้กล่าวมานี้ ประกอบด้วยข้อความสั้นๆเพียงไม่กี่ข้อความ แต่แขวงไปด้วยปรัชญาอันล้ำลึก ซึ่งสามารถตีความไปได้หลากหลายไม่มีขีดจำกัด ซึ่งอาจารย์กวีก็นำตัวอย่างปตัญชลีโยคะสูตรฉบับดั้งเดิมมาโชว์ให้ทุกคนดู ลักษณะไม่เหมือนหนังสือ เป็นเหมือนแผ่นพับขนาดเล็กกระทัดรัด ไม่หนา สามารถใส่เข้ากระเป๋ากางเกงทั่วๆไปได้อย่างสบายๆ จากตรงนี้นี่เองจึงเป็นที่มาของหนังสือปตัญชลีโยคะสูตรเล่มหนาๆ เพราะผู้เขียนแต่ละคนก็เขียนและตีความกันต่างๆกันออกไปตามแนวคิดของแต่ละคน ซึ่งไอ้ส่วนที่หนาขึ้นมาก็น่าจะเป็นแนวคิดของนักเขียนท่านนั้นๆที่มีต่อปตัญชลีโยคะสูตรในบทต่างๆ

จากข้างต้นจึงส่งผลมาถึงการฝึกโยคะในปัจจุบันด้วยเช่นกัน จึงเกิดเป็นการฝึกโยคะแบบสไตล์ต่างๆมากมายมาจนถึงทุกวันนี้ก็เนื่องมาจากการตีความจากปตัญชลีโยคะสูตรที่แตกต่างกันออกไป ของกูรูทางด้านโยคะแต่ละท่าน  ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า โยคะแบบไหนจะเหมาะกับเรา ซึ่งอันนี้มีองค์ประกอบอย่างอื่นอีกมากมาย

จากการมาบรรยายให้สถาบันฟิต ของอาจารย์กวี คงภักดีพงษ์ ในครั้งนี้ทำให้ผมและนักเรียนในคอร์สของผมทุกๆคน ได้เข้าใจแนวทางของการฝึกโยคะที่ชัดเจนมากขึ้นและรู้จัก ที่มาที่ไปที่ชัดเจนเกี่ยวกับประวัติของโยคะและปตัญชลีโยคะสูตร หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในโอกาสต่อๆไปท่านอาจารย์กวี จะยังคงมีเวลาว่างให้เกียรติมาบรรยายให้กับนักเรียนรุ่นต่อๆไปอีก

สุดท้ายของบทความนี้ผมขอทิ้งท้ายด้วยข้อความที่ ท่านอาจารย์กวีได้เซ็นต์สลักไว้ในหนังสือเล่มหนึ่งที่ผมได้รับจากมือของท่านเอง เป็นคำพูดสั้นๆ แต่แฝงไว้ด้วยปรัชญาลึกซึ้ง

ขอให้การปรุงแต่งของจิตจงดับสิ้นเทอญ

รบกวนทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาอ่านบล็อก ทั้งตั้งใจและบังเอิญเข้ามาอ่านก็ดี ทุกความคิดเห็นของท่านมีความสำคัญมากๆสำหรับผม โปรดช่วยแสดงความคิดเห็น ด้านล่างของบทความทุกบทความที่ท่านให้เกียรติเข้ามาอ่าน เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการปรับปรุงแก้ไข ให้กับผู้เขียนในโอกาสต่อไป หรือหากท่านต้องการส่งข้อความแสดงความคิดเห็นแบบส่วนตัวหรือเข้าไปเยี่ยมชมรูปภาพของครูจิมมี่ ก็สามารถติดต่อได้ที่ e-mail: jimmythaiyoga@yahoo.com www.facebook.com.โดยค้นหาจาก e-mail ขอบพระคุณมากๆครับ


นมัสเต,

จิมมี่โยคะ


ขอขอบพระคุณ สถาบันโยคะวิชาการ http://www.thaiyogainstitute.com/

1 ความคิดเห็น:

  1. เพิ่งได้ลองเล่น ปตัญชลี ที่ WOW มาครับ รู้สึกชอบในท่าต่าง ๆ ทำได้บ้างไม่ได้บ้างครับ

    ตอบลบ

ความคิดเห็น ของคนในวงการโยคะ

ป้ายกำกับ

Powered By Blogger