หลังจากที่นิตยสารโยคะเจอร์น่อล ฉบับภาษาไทย เดือนมีนาคม ออกวางจำหน่าย นักเรียนของผมหลายต่อหลายคน รวมจนถึงผู้ที่เป็นแฟนบล็อกของผม ต่างก็ถามว่า "ครูจิมมี่ ที่ลงในหน้า Community เป็นบทความที่เขานำไปจากบล็อกของครูจิมมี่ใช่ไหมเอ่ย?" ผมตอบอย่างภาคภูมิใจว่า "ใช่ครับ คือคอลัมนิส ที่เขียนหัวข้อนี้เขาโทร สายตรงมาหาผมและขอนำเรื่องนี้ไปลงครับ" และแล้วนักเรียนของผมผู้นั้นก็ถามต่ออีกว่า "แล้ว ทำไมไม่เห็นมีรูปครูล่ะ? มีแต่รูปมาสเตอร์ไซม่อน" อันนี้ผมก็ไม่ทราบว่าจะตอบอย่างไรเช่นกัน (เนื่องจากตอนนั้นผมก็ยังไม่ได้เห็น บทความในคอลัมน์) ต่อจากนั้นนักเรียนของผมก็วิภาควิจารณ์ไปต่างๆนานาต่อทันที ทำไม?...... ฯลฯ.......
เมื่อผมได้เห็นบทความ ผมก็เลยพอจะเข้าใจว่าทำไมนักเรียนผู้นั้นของผม ถึงได้ถามผมแบบนั้น...เพราะหากคนที่ไม่รู้จักผมหรือมาสเตอร์ไซม่อน ก็ต้องเข้าใจว่า รูปฝรั่งที่ปรากฏอยู่ในบทความนั้นน่าจะต้องเป็นครูจิมมี่แน่ๆ...
จากนั้นวันต่อมา นักเรียนของผมอีกกลุ่มหนึ่งก็มาถามอีก ด้วยความภูมิใจ ในครูผู้สอนคนนี้ที่พวกเขามีให้ ว่ามีผลงานได้ลงในนิตยสารโยคะหนึ่งเดียวของเมืองไทย แต่ไอ้คำถามที่สอง เหมือนเดิมเป๊ะเลยครับ "ทำไมไม่มีรูปครูลงบ้างล่ะ?" และก็ อีกหลายต่อหลายวันที่ผมต้องคอยตอบคำถามเช่นเดิมแบบเดียวกันนี้กับนักเรียนกลุ่มอื่นๆ ในสถานที่แตกต่างกันไป จากที่ผมไม่ได้คิดอะไรมาก คิดแค่ว่า เขาช่วยโปรโมท บล็อกของเรา โดยการนำเรื่องของเราไปลงก็ดีแล้ว ในที่สุดก็ทำให้ผมต้องคิด มีบางข้อเสนอแนะที่นักเรียนบางคนพูดมา ทำให้ผมต้องคิดคือว่า "ฉบับอื่นๆที่เขาเคยลง เมื่อเขานำบล็อกหรือเว็บของใครมาลงในคอลัมน์ เขาก็ต้องให้เครดิต ให้เกียรติโดยการนำรูปเจ้าของบล็อก, เจ้าของเว็บมาลงทั้งนั้นแหล่ะ ก็เห็นมีแต่ของครูนี่แหล่ะ"
ผมก็เลยมาถามตัวเองว่า เป็นเพราะอะไร? ทำไมเอ่ย? เขาจึงไม่นำรูปเราไปลง ทั้งๆ ในความป็นจริงรูปที่เขานำไปลงนั้นเป็นรูปที่ผมส่งให้เขาเอง เป็นรูปที่ผมถ่ายคู่กับมาสเตอร์ไซม่อน บรอก โอริเวียร์(เพราะเขาเป็นคน บอกให้ผมส่งรูปที่ผมถ่ายคู่กับมาสเตอร์ไซม่อน) ด้วยซ้ำ แต่เขาก็ตัดให้เหลือเพียงหน้าของมาสเตอร์ไซม่อนคนเดียว
ผมก็เลยตั้งสมมติฐานขึ้นมาเล่นๆ ว่า...
1. หน้าตา...ผมดีไม่พอ (ก็เป็นไปได้)
2. หน้ากระดาษ นั้นมันมีพื้นที่จำกัดไม่พอให้รูปของผมแทรกลงไป(หน้าผมอาจจะใหญ่เกินไป)
3. เขาไม่ได้สนใจเรื่องของผม เขาสนใจแต่เรื่องของมาสเตอร์ไซม่อนเพียงคนเดียว
4. คอลัมนิสต์ ส่งรูปเต็มๆไป แต่ผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่า เป็นคนจัดการเรื่องรูปนั้น และการจัดหน้า
จากตรงนี้ ด้วยความสงสัย ผมจึงส่งเมล์ไปถาม คอลัมนิสต์ ก็จึงได้คำตอบ ดังต่อไปนี้ ครับ
ครูจิมมี่
ขอโทษจริงๆค่ะ
การเป็นนักเขียนอิสระนั้น ทำให้ไม่สามารถกำหนดกฏเกณฑ์อะไรได้ทั้งหมด รวมถึงเรื่องการใช้รูปภาพประกอบด้วย ทั้งหมดนั้นขึ้นกันการตัดสินใจจากกองบรรณาธิการทั้งสิ้น
จุดหมายที่แจ้งไปในตอนที่โทรคุยกับครูจิมมี่ครั้งแรกนั้นชัดเจนมาก คือให้ครูจิมมี่เป็นผู้บอกเล่าเรื่องราวของไซม่อน และรูปก็ควรจะเป็นรูปคู่ที่ทางครูจิมมี่ได้เป็นผู้ส่งไปให้ ซึ่งก็น่าจะเหมาะสมที่สุดแล้ว เมื่อกองบรรณาธิการมีการตัดรูปออกไปนั้น ก็ไม่ได้มีการแจ้งให้แก่ทางนักเขียนทราบเช่นกัน กว่าจะทราบก็เมื่อหนังสือออกมาแล้ว คือพร้อมๆกับผู้อ่านทุกคนนั่นแหละ
และเหตุการณ์เช่นนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับนักเขียนอิสระอย่างเรา เคยแม้แต่ไม่ลงรูปประกอบให้เลยก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ซึ่งบางทีอาจเป็นเพราะนักเขียนเขียนเรื่องยาวเกิดไปก็เป็นได้ ขออภัยอย่างยิ่งเลยค่ะที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น
วิภาศัย
จากตรงนี้ ผมก็เลยเข้าใจชัดเจน ก็ต้องขอขอบคุณ คุณวิภาศัยมากๆครับ
จึงเรียนมาให้แฟนๆบล็อกที่รักทุกท่านทราบโดยทั่วกัน
รบกวนทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาอ่านบล็อก ทั้งตั้งใจและบังเอิญเข้ามาอ่านก็ดี ทุกความคิดเห็นของท่านมีความสำคัญมากๆสำหรับผม โปรดช่วยแสดงความคิดเห็น ด้านล่างของบทความทุกบทความที่ท่านให้เกียรติเข้ามาอ่าน เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการปรับปรุงแก้ไข ให้กับผู้เขียนในโอกาสต่อไป หรือหากท่านต้องการส่งข้อความแสดงความคิดเห็นแบบส่วนตัวหรือเข้าไปเยี่ยมชมรูปภาพของครูจิมมี่ ก็สามารถติดต่อได้ที่ e-mail: jimmythaiyoga@yahoo.com www.facebook.com.โดยค้นหาจาก e-mail ขอบพระคุณมากๆครับ
นมัสเต,
จิมมี่โยคะ
สวัสดีค่ะครู
ตอบลบจาก 4 ข้อที่มีให้เลือก
นู๋ขอเลือกตอบข้อหนึ่ง เป็นคำตอบสุดท้ายค่ะ 5555
อ่ะล้อเล่นน่ะค่ะ
เรื่องบางอย่าง มันก็ out control น่ะครู
ถือว่า เป็นการ โปรโมท บล็อก แล้วกันเนอะ
บุญรักษาค่ะครู
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามแต่ อย่างน้อยที่สุด ผมก็ดีใจที่มีคนให้ความสนใจเข้ามาอ่านบทความในบล็อกของผม
ตอบลบขอบคุณมากๆครับ
นมัสเต