เรื่องเล่า...จากครูโยคะ

เรื่องเล่า...จากครูโยคะ เป็นการรวบรวมเรื่องราวต่างๆจากประสบการณ์การสอนโยคะของครูจิมมี่ ถ่ายทอดออกมาเป็นบทความ สอดแทรกอารมย์ขัน เหมาะกับผู้ที่สนใจในการฝึกโยคะ, ครูฝึกโยคะและทุกๆคน ทุกเพศทุกวัย



สำหรับทุกๆท่านที่เพิ่งจะเข้ามาใช้บริการ อ่านบล็อก เรื่องเล่า...จากครูโยคะ โดยครูจิมมี่ สามารถเลือกคลิ๊กเข้าไปอ่าน บทความอื่นๆได้ ที่เดือนต่างๆ ซึ่งเรียงอยู่ทางด้านขวามือของบทความ ขอบพระคุณมากครับ



ขอพลังแห่งโยคะจงอยู่กับคุณตลอดไป...นมัสเต...





วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2553

คลาสโยคะของครูจิมมี่ ในงาน Asia Fitness Convention 2010.

คลาสโยคะของครูจิมมี่ ในงาน Asia Fitness Convention 2010.

ก็ได้ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ สำหรับ Asia Fitness Convention 2010. ซึ่งเป็นงานของผู้ที่รักสุขภาพและการออกกำลังกายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 17-19 กันยายน 2553 และถือเป็นการจัดงานนี้ครั้งที่สองติดต่อกันในเมืองไทย หลังจากที่งานนี้ได้ประสบความสำเร็จจากปีที่แล้ว งานนี้มีผู้เข้าร่วมงานจากทั่วทั้งเอเชีย  ถึงแม้ว่าภาพโดยรวมของผู้ที่เข้าร่วมงานจะดูน้อยกว่าปีที่แล้วเนื่องจากปัญหาทางด้านการเมืองภายในประเทศของเรา ซึ่งทำให้ผู้ที่คิดจะเข้าร่วมงานเกือบ20%ของทั้งหมด ต้องขอถอนตัวกับการมาร่วมงาน แต่ด้วยมิตรภาพและน้ำใจไมตรีที่แสดงออกอย่างชัดเจนของเจ้าภาพในนามของประเทศไทย งานทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

งานนี้ผมมีส่วนร่วมมากกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากได้ผ่านการคัดเลือกให้เป็น หนึ่งในวิทยากรของงานนี้ ซึ่งวิทยากรที่ได้รับเชิญมาในงานนี้ต่างก็เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการออกกำลังกายในสาขาต่างๆ ผมถูกเสนอชื่อให้เป็นหนึ่งในวิทยากรทางด้านโยคะ เนื่องจากปีนี้ช่วงที่จัดงานครูโยคะระดับโลกต่างๆที่ทางฝ่ายจัดงานพยายามเชิญต่างก็ติดภารกิจไม่สามารถมาร่วมงานนี้ได้ ทางฝ่ายจัดงานจึงเปิดโอกาสให้ครูโยคะในย่านอาเซี่ยนได้มีโอกาสเข้ามาแสดงผลงานบ้าง  จึงทำให้ผมได้รับเลือกให้สอนหนึ่งคลาส ชื่อคลาสก็คือ Fit Flow Yoga เนื่องจากเขาต้องการให้เป็นเหมือนการออกกำลังกายในตอนเช้า แต่งานมี 3วัน ตอนแรกผมก็ยังไม่รู้ว่าจะได้เช้าไหน? พอสรุปในฐานะวิทยากร คนเดียวจากประเทศไทย เขาเลยให้สอนเปิดงานในเช้าตรู่วันแรกของงานเลย( 7.00น.สอนก่อนพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเสียอีก)

ก็ต้องยอมรับเลยว่าดีใจมากๆที่ได้ผ่านการคัดเลือกเข้ามาเป็นวิทยากรในงานนี้ แต่ในใจลึกๆก็รู้สึกตื่นเต้นและกังวลใจเนื่องจากไม่เคยขึ้นไปสอนงานใหญ่ๆมาก่อนเลย พอเจองานแรกก็เป็นงานใหญ่ระดับเอเชียเลย การเตรียมตัวก็มีเวลาหลายเดือนแต่เนื่องจากผมก็มีภาระการสอนเกือบทุกวัน วันละหลายๆรอบ จึงดูเหมือนเวลาที่คิดว่ามันมีมาก เกือบจะไม่เพียงพอในการเตรียมตัวสอน ผมมาสติเกือบจะแตกเอาตอนก่อนการสอนจริง 2วัน เพราะรู้สึกว่ายังไม่ค่อยพร้อม ผมเตรียมท่าที่จะใช้สอนและทดลองสอนกับนักเรียนบางคลาสของผมในช่วง 2วันก่อนการสอนจริง แต่ก็คิดว่ามันยังไม่ลงตัว แล้วก็ต้องมากังวลกับเรื่องการเตรียมเพลงที่จะใช้สอนเอาในช่วงสองวันสุดท้ายนี้อีกด้วย แต่ก็ได้เพื่อนคนหนึ่งของผมช่วยจัดเรียงเพลงที่ผมจะใช้สอนให้ในคืนสุดท้าย(20.00น.)ก่อนที่จะสอน  เมื่อได้เพลงผมก็รีบนำกลับมาฟังที่บ้านและจัดเรียงท่าที่เตรียมไว้ให้เหมาะกับจังหวะเพลง แต่ก็ต้องรีบนอนเพราะต้องตื่นแต่เช้าตรู่ ผมตัดสินใจตื่นตอนตีสี่ครึ่งเพื่อเตรียมตัวอาบน้ำอาบท่าและเดินทางไปซ้อม ณ สถานที่จริงๆเลย(บางกอก คอนเวนชั่น ฮอลล์, โรงแรม แกรนด์ เซ็นทารา, ด้านหลังเซ็นทรัลเวิร์ลด)  หลังจากการซักซ้อมเล็กน้อยของผม(ใช้เวลาครึ่งชั่วโมง ในการซักซ้อม) ทุกอย่างก็มาลงตัวในตอน หกโมงเช้า

ก่อนที่จะถึงเวลาสอน ยิ่งใกล้เวลาสอนมากเท่าไหร่ผมก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น สิ่งหนึ่งที่ผมนึกถึงตลอดในขณะนั้นที่ตื่นเต้นที่สุด ก็คือคุณแม่ผู้ล่วงลับไปแล้วของผม ผมคิดว่าถ้าหากคุณแม่ยังอยู่ท่านคงจะภูมิใจในตัวลูกชายคนนี้ไม่มากก็น้อย และคงต้องเป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ให้ผมอย่างแน่นอน ทุกครั้งที่ผมมีเรื่องหนักใจอะไร ทุกครั้งที่ผมต้องการกำลังใจ ทุกครั้งที่จะต้องเดินทางไกลไม่ว่าจะไปต่างจังหวัดหรือจะไปต่างประเทศ ผมจะต้องโทรไปพูดคุย ขอคำปรึกษา ขอกำลังใจจาก ขอคำอวยพรจากคุณแม่ของผมเสมอๆตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่  ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามแต่ลูกของแม่คนนี้ก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดและจะไม่ทำให้คุณแม่ผิดหวัง

และเมื่อถึงเวลาสอนจริง 7.00น. พอเริ่มพูดได้แค่สองสามคำเท่านั้นความตื่นเต้นทั้งหมดก็หายไปจากผมจนหมดสิ้น(ประหนึ่งว่า องค์ลง, ร่างประทับ) ผมสอนได้เหมือนอย่างที่ผมเคยสอนในคลาสทั่วๆไป ทำอย่างที่ผมเคยทำ มันคงเป็นทักษะ ที่เกิดขึ้นจากการที่เราสอนเป็นประจำทุกๆวัน และฝังลึกลงไปในก้นบึ้งของจิตใจ ผมจึงสอนได้อย่างไม่มีความเขินอายหรือติดขัดแต่อย่างใด ในคลาสของผมมีผู้เข้ามาเรียน ประมาณ 24คน จากจำนวน24คนที่เข้าร่วมคลาสของผมเป็นชาวไทยเพียงคนเดียวเท่านั้น(แน่นอน บางท่านก็มาช้าบ้างเพราะไม่คุ้นเคยสถานที่ บางท่านก็ตื่นสายบ้าง) ซึ่งบางท่านอาจจะสงสัยว่างานก็ดูน่าจะใหญ่โตแต่ทำไมมีคนเข้าคลาสแค่นี้เอง เนื่องจากในเวลาเดียวกันกับที่ผมสอนนี้เอง 7.00น. ยังมีคลาสอื่นๆอีก 5คลาส และที่สำคัญมีคลาสโยคะของนิกกี้ ดูร้านท์(ลูกศิย์ของเอ็ดเวิร์ด คลาร์ก แห่ง ทริปซิโคโยคะ, ลอนดอน, อังกฤษ) ที่ห้องข้างๆ ห้องที่ผมสอนอีกด้วย จึงมีการเฉลี่ยกระจายจำนวนคนไปตามห้องต่างๆแล้วแต่จะเลือกเข้าเรียน ซึ่งผมก็สอนอย่างที่ผมเตรียมเลยครับ สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาก็คือ อารมณ์ขำขันสนุกสนานในคลาสตามสไตล์ของผม

และเมื่อผมสอนจนจบคลาสแล้ว ดูจากสีหน้าแววตาของทุกคนที่เข้าร่วมคลาสของผม เขาค่อนข้างจะโอเคครับ(คิดไปเองหรือเปล่าครูจิมมี่?) ถึงแม้นว่าบางคนจะไม่ค่อยมีประสบการณ์ในการฝึกโยคะก็ตาม แต่บรรยากาศก็เป็นการประยุกต์นำท่าฝึกโยคะอาสนะมาจัดเรียงให้เกิดเป็นการเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่องสนุกสนาน ในสไตล์หฐะวินยาสะโยคะที่ผมถนัด ก็ถือได้ว่าเป็นการออกกำลังกายตอนเช้าอีกรูปแบบหนึ่ง และไฮไล้ท์สำหรับผมตอนนั้นก็คือเมื่อจบคลาส หญิงชาวอินเดีย 2ท่านที่เข้าร่วมคลาสกับผมเดินเข้ามาหาผมและแสดงความขอบคุณพร้อมกับบอกผมว่าเขาชอบคลาสของผมมาก เขาถามผมหลายอย่าง คือ คุณเรียนจากใครมา? คุณสอนมานานกี่ปีแล้ว? หากคุณไม่ว่าอะไร ดิฉันขอนำท่าชุดที่คุณสอนทั้งหมดในวันนี้ไปสอนได้ไหม? แต่ดิฉันจำได้ไม่หมด คุณบอกหน่อยได้ไหมว่ามีท่าอะไรบ้าง? ก็หัวใจพองโตเล็กน้อย ผมตอบคำถามเขาทุกคำถามรวมจนรับปากกับเขาว่าถ้าเขาส่งอีเมล์มาหาผม ผมก็จะเขียนท่าที่ใช้สอนทั้งหมดให้กับเขา แบบไม่มีปัญหาอะไรเลย  ในการสอนคลาสนี้เกือบทุกท่าที่ผมสอนผมบอกชื่อท่าเป็นภาษาสันสกฤต และภาษาอังกฤษคู่กันไปตลอด ซึ่งคงเป็นอีกจุดหนึ่งที่สำคัญและบ่งบอกให้เขาพอจะทราบได้ว่าผมคงต้องฝึกและเรียนโยคะมาพอสมควร

ผมมาทราบในภายหลังว่า ชาวอินเดียกลุ่มนี้กำลังจะซื้อลิขสิทธิ์ของสถาบันฟิตของเราไปเปิดที่ประเทศอินเดียในเร็วๆนี้ ปัจจุบัน สถาบันฟิต ของเรามีสาขาอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย, สิงคโปร์ และ อินโดนีเซีย ก็ขอให้สถาบันฟิตของเราจงก้าวไกลยิ่งใหญ่ในเอเชีย

สำหรับในปีหน้าทางฝ่ายจัดงานก็ยังไม่ได้สรุปว่าจะไปจัดงานนี้ที่ประเทศใด ส่วนผลตอบรับจาก
คลาสของผม ผมก็ไม่สามารถคาดเดาอะไรได้ทั้งนั้น หวังเป็นอย่างยิ่งว่าถ้าทุกอย่างมันโอเคและเข้าตาทางฝ่ายจัดงาน ในปีหน้า ของเอเชีย ฟิตเนส คอนเวนชั่น คงจะได้เห็นครูจิมมี่คนนี้ได้รับการคัดเลือกให้เป็นพรีเซ็นเตอร์อีกครั้ง และสิ่งนี้แหล่ะที่จะบอกผมได้ถึงผลตอบรับที่แท้จริงจากสอนโยคะของผมในงานนี้ที่เพิ่งจะผ่านพ้นไป

ขอพลังแห่งโยคะจงอยู่กับผมและผู้ฝึกโยคะทุกคนตลอดไป

รบกวนทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาอ่านบล็อก ทั้งตั้งใจและบังเอิญเข้ามาอ่านก็ดี ทุกความคิดเห็นของท่านมีความสำคัญมากๆสำหรับผม โปรดช่วยแสดงความคิดเห็น ด้านล่างของบทความทุกบทความที่ท่านให้เกียรติเข้ามาอ่าน เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการปรับปรุงแก้ไข ให้กับผู้เขียนในโอกาสต่อไป หรือหากท่านต้องการส่งข้อความแสดงความคิดเห็นแบบส่วนตัวหรือเข้าไปเยี่ยมชมรูปภาพของครูจิมมี่ ก็สามารถติดต่อได้ที่ e-mail: jimmythaiyoga@yahoo.com www.facebook.com. โดยค้นหาจาก คำว่า Jimmy Yoga หรือ e-mail ขอบพระคุณมากๆครับ


นมัสเต,

จิมมี่โยคะ

ต้องขอขอบพระคุณมากๆ คือ


ผู้จัดงาน Asia Fitness Convention 2010 ที่ให้โอกาสครั้งสำคัญในชีวิตการสอนโยคะของผม เป็นวิทยากรตัวแทนของประเทศไทยเพียงคนเดียวในงานนี้


กำลังใจที่สำคัญมากๆจากทุกๆคนในครอบครัวของผม


ทีมงาน สถาบันฟิต ทุกๆท่าน ที่ให้โอกาส ให้กำลังใจและคอยเป็นแรงผลักดันให้ผมก้าวเข้ามาสู่การเป็นครูสอนโยคะ ระดับนานาชาติ


คุณวิจิตรา โอสถศิลป์(พี่เฮ๋า) กรรมการผู้จัดการ ฟิต สตูดิโอ ที่ช่วยแนะนำ การใช้คำพูดภาษาอังกฤษที่ผมควรจะต้องใช้ในการสอนครั้งนี้


คุณวนิดา โยคะโอม  ตัวแทนจำหน่ายเสื่อโยคะแมนดูกะ เพียงผู้เดียวในเมืองไทย ที่สนับสนุนเสื่อโยคะแมนดูกะ รุ่น Eco Super Lite ให้ผมได้นำเสื่อโยคะดีๆมาใช้สอนในงานนี้


คุณนิค ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ไนกี้ ประเทศไทย ช่วยสนับสนุนเสื้อผ้าไนกี้ ให้ผมใส่สอนโยคะในงานนี้ และที่ผมใส่สอนอยู่ทุกๆวันนี้จนเป็นเครื่องหมายการค้าไปแล้วว่า ครูจิมมี่มักใส่ไนกี้เสมอ


คุณโอ่ง Super Personal Trainer เพื่อนผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี่ ที่ช่วยจัดเรียงลำดับเพลงที่ผมต้องใช้ในการสอนครั้งนี้

5 ความคิดเห็น:

  1. ยินดีด้วย กับความสำเร็จ

    พื้นฐานและความพยายามในวันวาร

    ส่งผลดอกใบให้ชื่นใจในวันนี้แล้ว


    ปล. 1. แอบ .-_-. ตอนพูดถึงคุณแม่

    วี มั่นใจว่า คุณแม่ ต้องภูมิใจในตัวครูแน่ๆ ค่ะ

    2. เอิ่ม ครูจิมมี่ เขินอาย O_o คำนี้มีในพจนานุกรม ครูด้วยหรือค่ะ ( ^_- )


    บุญรักษาค่า

    ตอบลบ
  2. ซึ้งคะซึ้ง ในตอนที่ครูพูดถึงคุณแม่ของครูคะ ความพยายามย่อมคู่กับความสำเร็จคะ เตรียมตัวได้เลยนะคะปีหน้า ครูได้รับเชิญอีกแน่นอนคะ

    ปุ๋ย (โยคะ)

    ตอบลบ
  3. ครู สอนดี คะ....และมีมุขตลกๆฮาๆ ตรอดเวลา

    ตอบลบ
  4. ขอบคุณสำหรับบทความดีในวงการโยคะครับ ไว้จะคอยติดตามอ่านครับ

    ตอบลบ
  5. ขอขอบคุณมากๆครับ สำหรับทุกกำลังใจ ผมก็พยายามพัฒนาการสอนให้ดียิ่งๆขึ้น และจะพยายามส่งบทความลงสู่บล็อกเรื่อยๆครับ รบกวนทุกๆท่านช่วยติดตามผลงานของผมด้วยแล้วกันนะครับ
    นมัสเต...

    ตอบลบ

ความคิดเห็น ของคนในวงการโยคะ

ป้ายกำกับ

Powered By Blogger