เรื่องเล่า...จากครูโยคะ

เรื่องเล่า...จากครูโยคะ เป็นการรวบรวมเรื่องราวต่างๆจากประสบการณ์การสอนโยคะของครูจิมมี่ ถ่ายทอดออกมาเป็นบทความ สอดแทรกอารมย์ขัน เหมาะกับผู้ที่สนใจในการฝึกโยคะ, ครูฝึกโยคะและทุกๆคน ทุกเพศทุกวัย



สำหรับทุกๆท่านที่เพิ่งจะเข้ามาใช้บริการ อ่านบล็อก เรื่องเล่า...จากครูโยคะ โดยครูจิมมี่ สามารถเลือกคลิ๊กเข้าไปอ่าน บทความอื่นๆได้ ที่เดือนต่างๆ ซึ่งเรียงอยู่ทางด้านขวามือของบทความ ขอบพระคุณมากครับ



ขอพลังแห่งโยคะจงอยู่กับคุณตลอดไป...นมัสเต...





วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การตามหา...ใบประกอบวิชาชีพ ครูสอนโยคะ

การตามหา...ใบประกอบวิชาชีพ ครูสอนโยคะ (ของจิมมี่)

หลังจาก สอนโยคะมาได้สักระยะหนึ่ง ก็เริ่มมีนักเรียนที่เป็นชาวต่างชาติ มาเรียนกับผม คำถาม อมตะของชาวต่างชาติที่เรียนโยคะกับผม ส่วนใหญ่ก็คือ " โยคะสไตล์ที่คุณสอนคือ? คุณไปเรียนมาจากที่ไหน? คุณCertified Yoga Teacher หรือ Registered Yoga Teacher กับองค์กรโยคะไหน? " สองข้อแรกพอจะตอบกลับไปได้ไม่ยาก แต่คำถามสุดท้ายไม่รู้จะตอบยังไง เพราะไม่รู้เรื่อง แล้วก็ถามเขากลับไปด้วยความซื่อบื้อว่า "มันเป็นยังไงครับ?" เขาก็เลยตอบผมกลับมาว่ามันก็เหมือนการได้รับใบประกอบวิชาชีพครูสอนโยคะนั่นเอง คุณทำอาชีพอะไร คุณก็ควรจะต้องมีใบประกอบวิชาชีพนั้นๆ ในต่างประเทศ(ประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งหลาย) หากไม่มีใบประกอบวิชาชีพนั้นๆ คุณก็ไม่สามารถประกอบอาชีพนั้นได้ จึงเข้าใจทันทีเลยว่าสำหรับผมในตอนนี้ก็มีค่าเทียบเท่าครูสอนโยคะเถื่อนนั่นเอง ฟังดูน่ากลัวจังเลย และจะนิ่งเฉยเป็นครูสอนโยคะเถื่อนเรื่อยไปก็คงไม่ดีแน่

ผมจึงเริ่มหาข้อมูล และเริ่มใช้อินเตอร์เนต แล้วก็ทราบข้อมูลว่า สำหรับในประเทศไทยแล้วการเป็นครูสอนโยคะยังไม่มีข้อกำหนดกฎเกณฑ์ อะไรมาบังคับ แต่สำหรับประเทศที่พัฒนาแล้ว เขาก็จะมีกฎหมายกำหนด หรือไม่ก็จะมีองค์กรเกี่ยวกับโยคะมาควบคุม จัดระเบียบครูสอนโยคะให้ได้มาตรฐาน โดยทั่วไปแล้วการอบรมหลักสูตรครูฝึกโยคะจะมีด้วยกันสองแบบ คือแบบ 200ชั่วโมง กับแบบ 500ชั่วโมง ซึ่งทั้งสองแบบควรจะได้รับการรับรองจากองค์กรโยคะระดับนานาชาติเพื่อให้หัวข้อที่ใช้ฝึกอบรมเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน และผมก็สืบทราบมาว่าองค์กรโยคะระดับนานาชาติที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน ก็มีหลักๆ สององค์กร องค์กรแรกคือ International Yoga Federation ( IYF.)ปัจจุบันสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศอุรุกวัย องค์กรนี้ทำงานแบบอาสาสมัคร มีเจ้าหน้าที่ทำงานจริงๆเพียงไม่กี่ท่าน(จึงทำงานกันค่อนข้างช้า-ช้ามาก) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสายนักบวชฮินดูที่ย้ายไปอยู่ทางอเมริกาใต้ องค์กรนี้ค่อนข้างเก่าแก่ มีเครือข่ายและสมาชิกขององค์กรอยู่มากมายทั่วโลก ส่วนอีกองค์กรหนึ่งคือ Yoga Alliance ( YA.) ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา(องค์กรนี้ทำงานรวดเร็วทันใจมาก แต่ก็ต้องมีค่าธรรมเนียมต่างๆที่ต้องจ่ายให้องค์กร) องค์กรนี้จริงๆแล้วเกิดขึ้นเพื่อ ควบคุมและกำหนดมาตรฐานครูโยคะของสหรัฐอเมริกา เนื่องจากมีมาตรฐานต่างๆที่ค่อนข้างชัดเจนมากๆ ประกอบกับกระแสการฝึกโยคะของประเทศในย่านเอชียตะวันออกเฉียงใต้(รวมทั้งประเทศไทยของเราด้วย) มักจะได้รับอิทธิพลวัฒนธรรมหลายๆอย่างจากสหรัฐอเมริกามากกว่าทางอินเดีย (เห่อตามฝรั่งกัน) YA. จึงเข้ามามีอิทธิพล กับการจัดระเบียบครูโยคะ และเป็นเครื่องหมายการค้าว่า ถ้าอบรมหลักสูตรครูฝึกโยคะถ้าจะให้เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ ก็ควรอบรมกับครูต่างชาติและเป็นหลักสูตรที่ YA.รับรอง ซึ่งเมื่ออบรมจบจนได้ใบประกาศที่ผ่านการรับรองจากสององค์กรโยคะนานาชาติทั้งสององค์กรนี้แล้ว ก็จะต้องทำการขึ้นทะเบียนเพื่อเป็นครูโยคะระดับนานาชาติ สำหรับ IYF. ไม่ยุ่งยากเพราะ ถ้าจบจากสถาบันที่ได้รับการรับรองจาก IYF. แล้วเขาจะถือว่าคุณได้ขึ้นทะเบียนเป็นครูโยคะนานาชาติแล้วแบบอัตโนมัติ แล้วก็จะสามารถใช้เครื่องหมาย IRYT.(International Registered Yoga Teacher)ได้อย่างเต็มภาคภูมิ และยังสามารถนำใบประกาศนั้นไปสมัครสอนโยคะได้ทั่วโลก(แต่บางกรณีอาจไม่เป็นที่ยอมรับในสหรัฐอเมริกา) เพราะว่าที่สหรัฐอเมริกานั้น YA.เขาคลุมอยู่ ส่วนผู้ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรครูฝึกโยคะที่ได้รับการรับรองจากYA. จะต้องถ่ายเอกสารใบประกาศพร้อมกับค่าธรรมเนียมรายปี ไปที่YA. (สำหรับYA.ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้เขาทุกปีล่ะ)เพื่อทำการขึ้นทะเบียนและมีข้อมูลขึ้นโชว์บน เว็บไซต์ของ YA. ซึ่งผู้ที่ผ่านการขึ้นทะเบียนเป็นครูสอนโยคะกับ YA. แล้วนั้น จะได้รับหนังสือตอบรับและบัตรประจำตัวครูฝึกโยคะที่ขึ้นทะเบียนกับYA. และจะสามารถใช้เครื่องหมาย RYT.(Registered Yoga Teacher) ได้อย่างเต็มภาคภูมิ และยังนำใบประกาศไปใช้สมัครสอนโยคะได้ทั่วโลก ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมอื่นๆสามารถลิงค์เข้าไปดูได้ตามเว็บไซต์ด้านล่างบทความนี้ ดังนั้นผู้ที่จะเป็นครูโยคะตามมาตรฐานนานาชาติได้นั้น ควรจะต้องผ่านการอบรมหลักสูตรครูสอนโยคะ ขั้นพื้นฐานอย่างน้อย 200 ชั่วโมงและขึ้นทะเบียนกับองค์กรโยคะนานาชาติ

สถาบันผลิตครูโยคะที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในประเทศอินเดีย แต่ในปัจจุบันเนื่องจากศาสตร์แห่งการฝึกโยคะเป็นที่นิยมแพร่หลายไปทั่วโลก จึงมีสถาบันผลิตครูโยคะอยู่ทั่วทุกมุมโลก ซึ่งเราควรจะต้องตรวจสอบดูให้ดีว่าสถาบันต่างๆเหล่านั้นมีโครงสร้างหลักสูตรเป็นอย่างไรและขึ้นทะเบียนกับองค์กรโยคะใด เพราะในปัจจุบันมีสถาบันหลายๆแห่งเปิดเองสอนเองโดยไม่มีองค์กรโยคะใดมารับรอง

แต่พอทราบรายละเอียดต่างๆแล้ว มันยังมีอะไรมากกว่านั้นอีก มาดูเรื่องค่าใช้จ่ายของการอบรมหลักสูตรครูฝึกโยคะ ราคาค่อนข้างสูงมากสำหรับครูโยคะเถื่อนอย่างผม คงต้องเก็บเงินกันนานเลยล่ะ ราคาอยู่ประมาณ60,000 - 100,000 บาทเลยเชียว อันนี้ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ตั๋วเครื่องบิน, ที่พักและค่าใช้จ่ายส่วนตัวในระยะเวลาที่ไปฝึกอบรม รวมแล้วน่าจะต้องใช้เงินมากถึง200,000บาท

สุดท้ายแล้ว ในเมื่อเรารักในการสอนโยคะ โยคะเป็นสิ่งเดียวที่สร้างรายได้ให้กับผมในตอนนี้(ไปทำงานอย่างอื่นก็ไม่เป็นด้วยล่ะที่สำคัญ) ในเมื่อคิดจะเอาดีทางด้านนี้แล้ว ผมก็ควรจะลงทุนและทำให้มันถูกต้องตามมาตรฐานสากล เผื่อว่าวันหนึ่งจะมีใครเชิญไปสอนโยคะที่ต่างประเทศบ้าง(ฝันไปไกลถึงขนาดนั้นเลยเชียว)

ไม่นานนักผมก็ดิ้นรน กระเสือกกระสนหาหนทางผลักดันตัวเองไปอบรมหลักสูตรครูฝึกโยคะตามมาตรฐานสากลจนได้ในที่สุด ด้วยวิถีทางของผม ผมเลือกที่จะไปอบรมที่ประเทศมาเลเซีย สถาบันนี้เปิดอบรมหลักสูตรครูสอนโยคะมาตรฐานสากล200ชั่วโมง โดยได้รับการรับรองจาก Yoga Alliance ( YA.) เหตุผลที่เลือกจะไปอบรมที่นี่ก็คือ ประหยัดค่าใช้จ่ายที่สุด ใช้เวลาในการอบรมไม่นานมากนัก แค่ประมาณ20วัน(แค่นี้ก็เตรียมตัวกินแกลบได้เลยตอนกลับมาเมืองไทย) และใช้เวลาเดินทางน้อย สภาพแวดล้อมใกล้เคียงกับเมืองไทยมากๆ ปรับตัวไม่ยากแน่ๆ

ในที่สุดเมื่อทุกอย่างลงตัว การเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรกของผมก็กำลังจะมาถึง (น่าตื่นเต้นจังเลย)


รบกวนทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาอ่านบล็อก ทั้งตั้งใจและบังเอิญเข้ามาอ่านก็ดี ช่วยแสดงความคิดเห็น ด้านล่างของบทความทุกบทความ เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการปรับปรุงแก้ไข ให้กับผู้เขียนในโอกาสต่อไป ขอบคุณมากๆ ครับ 

นมัสเต,

จิมมี่โยคะ

http://www.fitthai.com/

http://www.yogaalliance.org/

http://www.internationalyogafederation.net/

http://www.yogaaum.com/

10 ความคิดเห็น:

  1. กำลังสนใจอยากไปเรียนครูโยคะที่ต่างประเทศอยู่พอดีค่ะ เล่นโยคะมา 4 ปีแล้วแต่พักหลังไม่ค่อยสม่ำเสมอเท่าไร รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้เล่นโยคะเลยอยากจะจริงจังกับมันมากขึ้น คิดว่าจะหยุดงานที่เครียดๆ 2 เดือนแล้วเล่นแบบจริงจัง ได้ประโยชน์กับตัวเองแถมพ่วงใบประกอบวิชาชีพครูโยคะ เผื่อเปลี่ยนงานในอนาคตอีก.. บทความคุณจิมมี่ช่างโดนใจพอดีเลยค่ะ....คุณจิมมี่สามารถแนะนำที่เรียนที่น่าเชื่อถือได้ในอังกฤษ และออสเตรเลียได้ไหมค่ะ เพราะมันช่างมีมากเหลือเกินที่ได้รับการรับรองแต่ไม่รู้ว่าดีจริงหรือป่าว ขอบคูณมากค่ะ

    ตอบลบ
  2. ก็ขึ้นอยู่กับว่า คุณParanee ฝึกโยคะสไตล์ไหนอยู่หละครับ แล้วก็ค้นหาข้อมูล จากอินเตอร์เน็ต ในสไตล์ที่อยากสอนหรืออยากฝึก จากนั้นก็พิจารณาว่าหลักสูตร นานแค่ไหน? ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่? องค์กรโยคะใดรับรองหลักสูตร? หากมี YA.รับรองก็ดี ซึ่งผมก็ไม่ค่อยจะสันทัดข้อมูลศูนย์ฝึกโยคะในประเทศอังกฤษครับ ต้องขออภัยจริงๆ
    นมัสเต,
    จิมมี่โยคะ

    ตอบลบ
  3. อยากสอบถามนิดสิครับ จากทุกวันนี้ผมเห็นมีการเปิด studio สอนโยคะกันมากมาย ผมสงสัยว่าการเปิดอะไรพวกนี้ต้องขอใบอนุญาตจากราชการด้วยรึเปล่า ผมเองกำลังจะเปิดร้านนวดไทยแล้วเห็นว่าพื้นที่ชั้นบนเหลืออยู่มากพอจะเปิดสอนโยคะได้เลยติดต่อเพื่อนที่สอนโยคะตามบ้านมาเปิดสอนที่นี่ด้วยเลย เลยว่าจะไปขอใบอนุญาตจากเขตพอดีจะได้ไปขอทีเดียวเลยครับ ขอบคุณมากครับ

    ตอบลบ
  4. อ่านบทความครูจิมมี่ แล้วตรงใจค่ะ เพราะเราไม่ได้ร่ำรวยพอที่จะ แสนสองแสน เรียนสบายมาก
    รู้สึกว่า ครูจิมมี่ จับต้องได้ เหมือนคนทั่วไปที่จะต้องดิ้นรน เพื่อตามฝัน สร้างอาชีพ ทำสิ่งที่รัก
    ได้ข่าวว่าครูจิมมี่สอนอยู่ที่ Fit studio คงต้องหาโอกาสเรียนด้วยสักครั้งค่ะ

    อยากเป็นครูเหมือนกันค่ะ ครูจิมมี่คิดว่า บางกอกโยคะ ซึ่งราคาพอจะย่อมเยาว์หน่อยเนี้ย เราสามารถทำงานที่ต่างประเทศได้มั้ยค่ะ พอดี ดิฉันก็มีพื้นฐานภาษาอังกฤษดีพอสมควรค่ะ

    ขอให้ครูจิมมี่ มีความสุขกับทุกๆ วันค่ะ
    นมัสเต

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณมากๆเลยครับคุณKanlaya ที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมอ่านบทความในบล็อกของผม...ผมต้องขอโทษด้วยนะครับที่ตอบช้ามากๆ
      สำหรับสถานที่เรียนนั้นหากเรามีความมุ่งมั่นตั้งใจใฝ่เรียนใฝ่รู้ เรียนที่ไหนๆก็คงจะได้รับความรู้อย่างแน่นอน เพราะทุกสถาบันก็คงจะต้องถ่ายทอดความรู้ตามแนวทางของสถาบันนั้นๆให้กับผู้เข้ารับการฝึกอบรมอย่างเต็มที่แน่นอน ถึงแม้นอาจจะมีความแตกต่างกันบ้างในเรื่องของสไตล์และเทคนิควิธีการก็ตาม...
      แนะนำว่าควรจะหาข้อมูลให้เย๊อะๆศึกษารายละเอียดต่างๆให้ดีๆเกี่ยวกับสถานที่ ที่เราสนใจจะไปเรียน และถ้าเป็นไปได้ก็ควรจะเข้าไปเยี่ยมชมสถานที่นั้นๆก่อนที่จะตัดสินใจ เลือกสถานที่ที่เราคิดว่าใช่สำหรับเรา...
      ควรจะตรวจสอบและเช็คดูให้แน่ชัดเสียก่อนว่าในประเทศที่เราจะไปอยู่นั้น มีองค์กรโยคะใดที่คอยควบคุมดูแลอยู่ ซึ่งเราก็ควรจะไปเรียนกับสถาบันที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานที่ประเทศนั้นๆยอมรับน่ะครับ...
      ลองศึกษาข้อมูลดูให้ดีๆนะครับ...

      ช่องทางที่สามารถติดต่อผมได้สะดวกน่าจะเป็นทางเฟสบุ๊คครับ
      https://www.facebook.com/jimmy.yoga

      ขอพลังแห่งโยคะ ความรักและศรัทธาจงอยู่กับคุณตลอดไป บุญรักษา พระคุ้มครอง
      นมัสเต,

      ลบ
  5. เคยเรียนโยคะกับครูจิมมี่ ที่ฟิตเนส เฟิร์สท สาขาแลนด์มาร์ก พลาซ่า นานมาแล้วค่ะ ครูสอนดีมากค่ะ

    ตอบลบ
  6. เคยเรียนโยคะกับครูจิมมี่ ที่ฟิตเนส เฟิร์สท์ แลนมาร์กพลาซ่า นานมาแล้วค่ะ ครูสอนดีมากค่ะ:)))

    ตอบลบ
  7. เล่าเรื่องไปเรียนที่มาเลอีกนะ...ชอบ

    ตอบลบ
  8. ขอบคุณสำหรับบทความของครูทุกบันทัดเลยนะคะ..ติดตามอ่านตลอดคะอ่านแล้วกลับมาอ่านอีกวกไปวนมาครูเขียนได้น่าสนใจและไม่รู้เบื่อ...ขอบคุณคร้าบบบบบบ

    ตอบลบ
  9. ขอบคุณสำหรับบทความของครูทุกบันทัดเลยนะคะ..ติดตามอ่านตลอดคะอ่านแล้วกลับมาอ่านอีกวกไปวนมาครูเขียนได้น่าสนใจและไม่รู้เบื่อ...ขอบคุณคร้าบบบบบบ

    ตอบลบ

ความคิดเห็น ของคนในวงการโยคะ

ป้ายกำกับ

Powered By Blogger