เรื่องเล่า...จากครูโยคะ
เรื่องเล่า...จากครูโยคะ เป็นการรวบรวมเรื่องราวต่างๆจากประสบการณ์การสอนโยคะของครูจิมมี่ ถ่ายทอดออกมาเป็นบทความ สอดแทรกอารมย์ขัน เหมาะกับผู้ที่สนใจในการฝึกโยคะ, ครูฝึกโยคะและทุกๆคน ทุกเพศทุกวัย
สำหรับทุกๆท่านที่เพิ่งจะเข้ามาใช้บริการ อ่านบล็อก เรื่องเล่า...จากครูโยคะ โดยครูจิมมี่ สามารถเลือกคลิ๊กเข้าไปอ่าน บทความอื่นๆได้ ที่เดือนต่างๆ ซึ่งเรียงอยู่ทางด้านขวามือของบทความ ขอบพระคุณมากครับ
ขอพลังแห่งโยคะจงอยู่กับคุณตลอดไป...นมัสเต...
สำหรับทุกๆท่านที่เพิ่งจะเข้ามาใช้บริการ อ่านบล็อก เรื่องเล่า...จากครูโยคะ โดยครูจิมมี่ สามารถเลือกคลิ๊กเข้าไปอ่าน บทความอื่นๆได้ ที่เดือนต่างๆ ซึ่งเรียงอยู่ทางด้านขวามือของบทความ ขอบพระคุณมากครับ
ขอพลังแห่งโยคะจงอยู่กับคุณตลอดไป...นมัสเต...
วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
สัมผัสแห่งโยคะ(ซึ่งมีนัย[ะ]แอบแฝง)
สัมผัสแห่งโยคะ(ซึ่งมีนัย[ะ]แอบแฝง)
ช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ มีผู้ฝึกโยคะที่เป็นสุภาพสตรีหลายๆท่าน (รวมจนถึงนู๋เปิ้ล Reception ที่สถาบัน Fit ต้นสังกัดของผมด้วย) ได้พูดคุยกับผมถึงเรื่องของการที่ครูสอนโยคะซึ่งเป็นผู้ชายเข้ามาจับเนื้อต้องตัวผู้ฝึกที่เป็นสุภาพสตรี แล้วก็เกิดเป็นกระแสของความไม่พึงพอใจของสุภาพสตรีที่เป็นผู้ฝึก(เหมือนถูกล่วงละเมิด)ในพฤติกรรมดังกล่าวนี้ของครูผู้สอนโยคะ
ซึ่งตามขนบธรรมเนียม+วัฒนธรรมอันดีงาม ของไทยเรา ผู้หญิงมักได้รับการปลูกฝังมาว่าควรจะต้องรักนวลสงวนตัว ทำอะไรก็ต้องคอยระมัดระวังตัว ไม่ควรจะให้ใครมาแตะเนื้อต้องตัวได้ง่ายๆ(อันนี้ เป็นแนวคิดเนิ่นนาน ดั้งเดิมของไทยเรา) ปัจจุบันยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว แนวคิดบางอย่างสำหรับบางคนก็เปลี่ยนแปลงตามไป แต่ผมเชื่อว่าคนไทยหลายๆคนก็ยังไม่ทิ้งแนวคิดดั้งเดิมที่ได้รับอิทธิพลมาจากบรรพบุรุษของเรา
จึงเป็นประเด็นขึ้นมาว่า การเข้ามาช่วยจัดท่าฝึกโยคะให้กับผู้ฝึก ของครูโยคะนั้น สมควรหรือไม่อย่างไร? ตามความคิดของผม บอกตรงๆเลยว่าพูดยากครับ ก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์นั้นๆ ว่าเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งสำหรับการเข้าไปช่วยจัดท่าฝึกของครูโยคะ ผมได้อ่านเจอในคู่มือ Anusara Yoga Teacher Training Manual เขาได้มีการชี้แนะถึงเรื่องดังกล่าวนี้ไว้ค่อนข้างชัดเจนดี ผมจึงพยายามแปลเป็นภาษาไทยตามความเข้าใจของผมมาให้พี่น้องร่วมอุดมการณ์ทั้งหลายลองพิจารณากันว่าเป็นเช่นไร
การจัดท่าฝึกและช่วยปรับการทำท่าอาสนะให้ดีขึ้น(Adjustments and Improvements)
จะกระทำเมื่อ
- ท่าผิดจึงจัดท่าให้
- จัดท่าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของท่า และความถูกต้อง
ใช้เวลาในการจัดท่าให้น้อยที่สุด แต่มีประสิทธิภาพมากที่สุด และควรให้ทำท่าค้างไว้ จนกว่าจะบอกรายละเอียดทุกขั้นตอน ในท่าฝึกนั้น ๆ จนหมดแล้วจึงค่อยเปลี่ยนท่า
รูปแบบของการจัดท่าฝึก
Verbal Adjustments การใช้คำพูด ช่วยในการจัดท่าฝึก (ไม่มีการแตะต้องตัวผู้ฝึก)
Physical Adjustments ใช้การสัมผัสช่วยในการจัดท่าฝึก
(พูดง่ายๆก็คือ ค่อยๆบอกนักเรียนของเราให้ทำให้ถูกต้องมากที่สุดก่อน หากพูดจนปากเปรียกปากแฉะแล้วก็ยังทำท่าไม่ได้สักที จึงค่อยเริ่มลงไม้ลงมือ เข้าไปแตะต้องตัวเพื่อช่วยให้เขาทำท่าได้ดีขึ้น)
- ควรขออนุญาต ผู้ฝึกก่อนที่จะเข้าไป ใช้การสัมผัสช่วยในการจัดท่าฝึกตำแหน่งที่จะแตะ ตำแหน่งการเข้าไปจัดท่า และควรจะอยู่ด้านข้างหรือด้านหลังของผู้ฝึก
- แน่ใจว่านักเรียนที่ฝึกจะไม่ เสียการทรงตัวและบาดเจ็บจากการที่เราเข้าไปช่วยเขาจัดท่าฝึก
Types of Touch ลักษณะของการเข้าไปสัมผัสตัวผู้ฝึกโยคะ
Investigative - หาจุดที่ผู้ฝึกบกพร่องอยู่
Directive - แตะเพื่อบอกตำแหน่ง ในการจัดระเบียบร่างกาย
Alerting - แตะเพื่อบอกถึงจุดตำแหน่งที่ผู้ฝึกจะต้องมองไป
Adjusting - แตะเพื่อจัดให้ได้ท่าฝึกที่ถูกต้องเหมาะสม ตามโครงสร้างร่างกายของผู้ฝึก
Stabiliqing - แตะเพื่อช่วยให้ผู้ฝึกมีการทรงตัวที่ดีขึ้น
Loving - แตะด้วยความรัก ความเมตตา ที่จะพัฒนาศักยภาพของผู้ฝึก (อย่าคิดเกินเลย)
Random - แตะแบบซุ่มเดา ไม่มีจุดมุ่งหมาย (ไม่ควรทำ) จะทำให้ผู้ฝึกสับสน
Sensual - การแตะที่ไปกระตุ้นความรู้สึก (แบบรูปไร้ไปตามผิวเบา ๆ) ไม่เหมาะสม
Invasive - แตะแบบรุกล้ำ แตะในส่วนที่ไม่สมควร เช่น ใบหน้า, ใบหู, สะโพก(ก้น), หน้าท้องส่วนล่าง และหน้าอก(สำหรับผู้หญิง)
จากประสบการณ์ของผมก็เคยได้เห็น ได้เจอ ได้ฟังมาเยอะเหมือนกัน กับพฤติกรรมอันไม่สมควรของเพื่อนร่วมวิชาชีพ อย่างเช่น ครูสอนโยคะบางคนไม่ดูแลนักเรียนรุ่นแม่ๆป้าๆ จ้องแต่จะดูแลแต่นักเรียนสาวๆจนออกนอกหน้า, ครูสอนโยคะบางคนก็เลือกที่จะไปช่วยจัดท่าให้แต่นักเรียนสาวๆที่รูปร่างหน้าตาดีๆจนออกนอกหน้า, หรือบางคนก็อาจจะพูดจาหาผลประโยชน์แอบแฝงนอกเหนือจากการสอน(ไอ้พวกฉวยโอกาส, ไม่มีจรรยาบรรณ)
สำหรับเจตนาในการจับต้องของครูผู้สอนนั้นผมคิดว่า ผู้ที่ถูกจับน่าจะต้องรู้สึกถึงเจตนาของการจับนั้นๆ ว่าครูเขาต้องการเข้ามาช่วยหรือว่าคิดเป็นอื่น
ขอพูดสักนิดหนึ่งเถิดน๊ะ! แต่ผู้ฝึกโยคะสาวๆหลายคน ก็ยินยอมพร้อมใจให้ครูจับต้องได้เต็มที่(หากว่าครูผู้สอนโยคะ คนนั้นตรงสเป็ก คมเข้ม,หล่อล่ำ ฯลฯ) หรือไม่จริง? อันนี้ก็ไม่ว่ากัน เป็นไปตามกำลังศรัทธา แต่ก็อย่าให้น่าเกลียดเกินไป เดี๋ยวจะเป็นเป้าสายตาและเป็นขี้ปากของคนอื่นที่ร่วมคลาส
พึงระลึกไว้เสมอว่า เรื่องดีๆมักจะไปแบบเงียบๆช้าๆเรื่อยๆ... แต่ว่าเรื่องอะไรก็ตามที่ไม่ค่อยจะดีแป๊บเดียวรู้กันทั่วหน้า (มันเป็นแบบนั้นจริงๆครับ)
ดังนั้นทำอะไรไว้ก็ตาม พึงสังวรณ์ไว้ให้ดี สมัยนี้เวรกรรมตามทันหมด และเวรกรรมมาเร็วเหมือนติดจรวดด้วย(ขอบอกในฐานะพุทธศาสนิกชนคนหนึ่ง)
หลายต่อหลายครั้ง ด้วยการที่เราเกรงใจไม่กล้าจะแสดงออกกับครูผู้สอน กลัวจะเป็นการไม่ให้ความเคารพกับผู้สอน แต่จริงๆแล้วถ้ารู้สึกว่า ไม่อยากให้ครูสอนโยคะเข้ามายุ่งกับเราเลย ขยะแขยง จะมีแนวทางใดบ้างที่พอจะรับมือกับสถานการณ์นี้ได้
1. เลิกไปเรียนโยคะ เพื่อเป็นการตัดปัญหา(วิธีนี้พวกหมด หนทางในชีวิตเขาทำกัน)หรือหลีกเลี่ยงการไปเรียนโยคะกับครูคนนั้น(เปลี่ยนไปเรียนกับครูคนอื่นดูบ้าง) ถ้าอาการหนักอาจจะเปลี่ยนสถานที่เรียน
2. พาแฟนไปเรียนด้วย เพื่อครูจะได้ไม่กล้ามายุ่งกับเรา
3. พาเพื่อนที่มีฝีปากกล้าไปด้วย ถ้ามีปัญหาจะได้ช่วยด่าครูเลย
4. แสดง ท่าทางที่เป็นภาษาร่างกาย ปฏิเสธการเข้ามาแตะต้องตัวของครูผู้สอนทุกครั้งๆ หรืออาจจะพูดบอกครูผู้สอนไม่ให้มายุ่งกับเราแบบสุภาพทันทีเลย
5. บอกครูก่อนที่คลาสจะเริ่ม เช่นว่า "ครูคะ ไม่ต้องช่วยจัดท่าให้นะคะ บ้าจี้ค่ะ ใครมาถูกตัวจะเสียจริตค่ะ"
6. พยายามแต่งตัว อย่าให้วาบหวิวมากเกินไป ในเวลาไปฝึกโยคะ
7. พยายาม ทำท่าโยคะอาสนะให้ถูกต้องมากที่สุด ครูจะได้ไม่ต้องมายุ่งกับเรา
ในฐานะที่ผมก็เป็นครูสอนโยคะผู้ชายคนหนึ่ง(เป็นครูโยคะแบบที่ขายรูปร่าง หน้าตาด้วย) ก็ต้องขอกราบเรียนผู้ฝึกโยคะที่เคยฝึกโยคะกับผมทุกๆท่าน หากว่าผมได้กระทำการใดๆ ที่เป็นการล่วงเกินทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ อาจจะด้วยการแตะเนื้อต้องตัวหรือการพูดการจาก็ตามแต่ ก็ต้องขอกราบประทานอภัยไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย และถ้าหากมีความอึดอัดใจประการใด หรือข้อเสนอแนะใดๆ หลังจากที่ฝึกโยคะกับผมเสร็จแล้วก็สามารถ บอกกล่าวหรือชี้แนะผมได้ทันทีแบบไม่ต้องเกรงใจ เพื่อผมจะได้นำข้อมูลต่างๆเหล่านั้นมาเป็นแนวทางในการปรับปรุงแก้ไขการสอนโยคะของผมให้ดียิ่งๆขึ้นไป
สำหรับทุกท่านที่เข้ามาอ่านบล็อก หากมีประสบการณ์ดังกล่าวข้างต้น ก็อย่าลืมแบ่งปันประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ เพื่อจะได้เป็นกรณีศึกษาให้กับเพื่อนร่วมอุดมการณ์ของเรา
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ศีลธรรม, จรรยาบรรณอันดีงามของการเป็นครูสอนโยคะจะอยู่กับผมและครูสอนโยคะทุกคนตลอดไป
รบกวนทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาอ่านบล็อก ทั้งตั้งใจและบังเอิญเข้ามาอ่านก็ดี ทุกความคิดเห็นของท่านมีความสำคัญมากๆสำหรับผม โปรดช่วยแสดงความคิดเห็น ด้านล่างของบทความทุกบทความที่ท่านให้เกียรติเข้ามาอ่าน เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการปรับปรุงแก้ไข ให้กับผู้เขียนในโอกาสต่อไป หรือหากท่านต้องการส่งข้อความแสดงความคิดเห็นแบบส่วนตัวหรือเข้าไปเยี่ยมชมรูปภาพของครูจิมมี่ ก็สามารถติดต่อได้ที่ e-mail: jimmythaiyoga@yahoo.com www.facebook.com.โดยค้นหาจาก e-mail ขอบพระคุณมากๆครับ
นมัสเต,
จิมมี่โยคะ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ป้ายกำกับ
- Jimmy Thai Yoga (75)
- ่่Jimmy Yoga (1)
ขอแสดงความคิดเห็นในฐานะผู้ที่ฝึกโยคะที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง บางครั้งในการฝึกเราก็อยากให้ครูมาจัดท่าให้ อยากให้ร่างกายยืดเหยียดมากขึ้น และเราจะรู้สึกปลอดภัยที่ครูผู้สอนมาจัดท่าให้ โดยไม่มีจิตใจที่จะคิดว่าครุจะมาล่วงละเมิดเรา(ในกรณีครูผู้ชาย)ในการจัดท่าทางบางท่าถ้าเราโดนผู้ชายดันก้นอยู่บ่อยๆคงไม่งามแน่คะ เราเป็นผู้เรียนไม่คิดอะไรหรอกคะเรามาออกกำลังกาย จิตใจเราก็คิดเรื่องการทำท่าแต่ครูที่สอน(บางคน)จะคิดไหมคะ? ว่าสิ่งที่คุณทำทำให้ผู้เรียนรู้สึกไม่ปลอดภัยเหมือนมีอะไรแอบแฝง? ขอบคุณครูจิมมี่ที่ได้เขียนเรื่องดีๆทำให้เรารู้ว่าถ้าเราโดนกระทำที่ไม่เหมาะสมเราควรจะต้องป้องกันสิทธิเราอย่าให้ใครมาฉวยโอกาสในฐานะเราเป็นนักเรียนโยคะกับครู(ในคราบซาตาน)ได้นะคะ ขอบคุณคะ
ตอบลบขอบคุณ คุณsupatta_pleมากครับ ที่กล้าเข้ามาถ่ายทอดประสบการณ์ หากว่าเป็นครูสอนโยคะคนไทยและเป็นผู้ชาย ใช้มือจับก้นนักเรียนหญิงเพื่อช่วยจัดท่า ผมว่าดูไม่สมควร(หากเขาตั้งใจจับ)เขาคงไม่ได้รับการอบรมสำหรับการเป็นครูฝึกโยคะที่ถูกต้อง หรืออาจจะมาสอนโดยที่ไม่ได้ผ่านหลักสูตรครูสอนโยคะ(ครูเถื่อน) ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ค่อนข้างแย่เลยล่ะครับหากเป็นผู้หญิงคนไหนเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็อาจจะไม่อยากเรียนโยคะอีกเลย หากครูคนนั้นมีตัวตนจริงๆอยากให้เข้ามาอ่านบล็อกนี้บ้างจังเลย เผื่อจะได้มีจิตสำนึกที่ดีขึ้น และหวังว่าจะไม่ไปทำเยี่ยงนี้กับใครอีก
ตอบลบ