คัมภีร์ภควัทคีตากับการฝึกโยคะ
ผู้ฝึกโยคะหลายท่าน คงเคยได้รับการแนะนำจากกูรูทางด้านโยคะ ให้อ่านหนังสือเรื่องภควัทคีตา ซึ่งเรื่องภควัทคีตานี้เป็นส่วนหนึ่งของสงครามมหาภารตยุทธ มหากาพย์อันยิ่งใหญ่และความภาคภูมิใจของชาวชมภูทวีป
ภควัทคีตา อ่านว่า "พะ-คะ-วัด-คี-ตา" หมายถึง "บทเพลงแห่งพระเป็นเจ้า" เป็นชื่อคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู
ที่เล่าเรื่องโดย ฤๅษีกฤษณะ ไทวปายนะ วยาส โดยฤาษีตนนี้ ได้เล่าเรื่องราวของมหาภารตะให้แก่ พระพิฆเนศ และพระพิฆเนศก็ได้จดจาร บันทึกไว้เป็นตัวอักษร ก่อเกิดเป็นมหากาพย์อันยิ่งใหญ่ และคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวฮินดูใช้ปฏิบัติกันจวบจนปัจจุบัน
***คัมภีร์ภควัทคีตา ฉบับที่แปลเป็นภาษาไทยปัจจุบันแทบจะไม่เหลือแล้ว ลองหาอ่านได้ตามหอสมุดแห่งชาติ (ห้องหนังสือศาสนา) โบสถ์พราหมณ์เสาชิงช้า และหอสมุดโบราณต่างๆ***
แต่ว่า ผมเคยเห็นยังพอมีวางจำหน่ายอยู่บ้าง ที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ และร้านขายหนังสือ Kinokuniya สาขาสยามพารากอน
มหาภารตะ เป็นมหากาพย์ที่ยาวที่สุดในโลก (ยาวกว่า สามก๊ก อีเลียด Oddysey และ The Cantos รวมกัน) มีเนื้อหาที่ซับซ้อนมาก ให้ความรู้ครบถ้วนทุกศาสตร์ในโลก ทั้งเรื่องราวของเทพปกรณัม นิทาน บทกวี คติสอนใจ หลักปรัชญา หลักการสู้รบ ภูมิศาสตร์ วิถีชีวิต ศิลปะ ประเพณีของอินเดีย การเมือง และมีเรื่องย่อยๆ แทรกอยู่อีกมากมาย สามารถแยกเรื่องย่อยๆเหล่านั้นมาเป็นหนังสือได้อีกหลายร้อยเล่ม จนมีคำกล่าวยกย่องไว้ว่า..
...สิ่งใดไม่มีกล่าวไว้ในมหาภารตะ...สิ่งนั้นไม่มีในโลก!!!
มหาภารตะเป็นเรื่องราวความขัดแย้งของพี่น้องที่สืบเชื้อสายเดียวกัน 2 ตระกูล ระหว่าง ตระกูลปาณฑพ กับ ตระกูลเการพ โดยทั้ง 2 ตระกูลก็เป็นพี่น้องที่สืบเชื้อสายมาจาก ท้าวภรต แห่งกรุงหัสตินาปุระมาด้วยกัน เหตุขัดแย้งบานปลาย นำไปสู่มหาสงครามอันยิ่งใหญ่ ณ ทุ่งกุรุเกษตร เพื่อแย่งชิงราชสมบัติและแย่งกันปกครองแผ่นดิน มีพรรคพวกพันธมิตรของแต่ละฝ่ายเข้าร่วมรบด้วยเป็นจำนวนมหาศาล คือมหากาพย์แห่งการสู้รบระหว่างฝ่ายธรรมะและฝ่ายอธรรม
ตัวเอกสำคัญที่สุดของมหากาพย์ภารตะ คือ เจ้าชายอรชุน (เจ้าชายฝ่ายตระกูลปาณฑพ) และ พระกฤษณะ ซึ่งพระกฤษณะก็ คือ 1 ใน 10 ปางอวตารของ พระวิษณุ หรือ พระนารายณ์ อันสูงสุดของศาสนาพราหมณ์นั่นเอง พระกฤษณะเป็นที่ศรัทธานับถือของชาวฮินดู ในลัทธิที่นับถือพระวิษณุเป็นใหญ่ในตรีมูรติ (นอกจากพระกฤษณะ หรือ ปางกฤษณาวตาร นี้แล้ว ยังมี ปางรามาวตาร โดยอวตารเป็น พระราม ใน มหากาพย์รามายณะ หรือ ชื่อไทยคือ รามเกียรติ์ ที่เรารู้จักกันดี และอีกอวตารคือ ปางพุทธาวตาร หรือ พระพุทธเจ้า ซึ่งก่อให้เกิดศาสนาพุทธในภายหลังนั่นเอง... ซึ่งทั้ง 3 ปางนี้ก็เป็นปางอวตารที่ยิ่งใหญ่ของพระวิษณุที่ชาวฮินดูนับถือมากที่สุด)
หลักปรัชญาใน ภควัทคีตา ที่ปรากฏอยู่ภายในมหากาพย์มหาภารตะนั้น คือปรัชญาที่เกิดขึ้นจากการสนทนาระหว่าง พระกฤษณะ กับ เจ้าชายอรชุน ในระหว่างการเข้าสู่สนามรบ โดยพระกฤษณะก่อนหน้านั้นเป็น สารถีผู้ขี่ม้า ให้แก่เจ้าชายอรชุน ได้เปิดเผยสถาวะที่แท้จริงของตนในภายหลังให้อรชุนได้ประจักษ์ ว่าตนเป็น พระวิษณุอวตาร และได้แสดงธรรมเปิดเผยคำสอนแก่อรชุน อันประกอบไปด้วยความจริงแห่งโลก จักรวาล ธรรมชาติของชีวิต การปฏิบัติตนเป็นโยคี การหลุดพ้น และการเดินทางสู่สภาวะอันเป็นนิรันดร์ ส่วนหนึ่งของคำสอนที่มีความเกี่ยวข้องกับการฝึกโยคะก็คือ การปฎิบัติหน้าที่ของตนตามวรรณะที่มีคือทางเข้าสู่ความหลุดพ้น- มุ่งสอนว่ามนุษย์จะเข้าถึงการหลุดพ้นได้ด้วย 3วิถีทาง
ญานโยคะ : ใช้ปัญญา ใคร่ครวญ แสวงหาความรู้ที่ถูกต้อง เพื่อทำลายอวิชชาที่เคลือบจิตใจ
กรรมโยคะ : ใช้การปฎิบัติ ทำตามหน้าที่ของตนตามวรรณะโดยไม่หวังผลตอบแทน ไม่ยึดติดต่อในตัวตนหรือผลที่ได้รับ วางอุเบกขา
ภักดีโยคะ : ใช้ความภักดี มุ่งมั่นกระทำสิ่งที่ตนศรัทธา
ปรัชญาใน ภควัทคีตา ได้กลายมาเป็นคำสอนที่ชาวอินเดียผู้นับถือศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ยึดเหนี่ยวเป็นที่พึ่ง ยึดเป็นข้อปฏิบัติด้วยศรัทธาอย่างแรงกล้า อันจะทำให้ตนหลุดพ้นบ่วงและพันธนาการอันชั่วร้ายทั้งปวง
มหาตมะ คานธี ผู้นำอินเดีย คือบุคคลที่นำเอาหลักปรัชญาจาก ภควัทคีตา มาใช้จนเห็นผลชัดเจนที่สุด...ในบรรดาศิลปิน นักปราชญ์ อาจารย์ นักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์และบุคคลที่มีชื่อเสียงของโลกหลากหลายอาชีพ ก็ได้ใช้ปรัชญาในคัมภีร์นี้ นำไปต่อยอดความรู้ของตน เพื่อการสร้างสรรค์ผลงานอันยิ่งใหญ่.....บุคคลชั้นนำในแวดวงธุรกิจ ตลอดจนนักการเมือง ผู้นำประเทศที่มีชื่อเสียงของโลกหลายท่าน ก็ได้ใช้หลักปรัชญาใน ภควัทคีตา มาปรับใช้ในการบริหารธุรกิจและปกครองประเทศอยู่มากมาย
.....บุคคลทั่วไปก็สามารถเข้าถึงหลักธรรมคำสอนในภควัทคีตา และนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไม่ยากเย็น....คัมภีร์ภควัทคีตา และ มหากาพย์มหาภารตะ แม้จะเป็นเรื่องราวที่ว่าด้วยอวตารของ พระวิษณุ ซึ่งเป็นเทพคนละฝ่ายกับ พระศิวะ และ พระพรหม อันเป็น 3 มหาเทพสูงสุดของศาสนาพราหมณ์ก็ตาม แต่ชาวฮินดูทุกฝ่าย ก็ได้ยึดเอาหลักปรัชญาและคำสอนในภควัทคีตาและมหาภารตะ มาใช้ยึดเหนี่ยวและปฏิบัติในชีวิตประจำวันตราบจนสิ้นลมหายใจ ไม่ว่าตนจะนับถือพระวิษณุ พระศิวะ หรือพระพรหมเป็นใหญ่ก็ตาม
เฉกเช่นเดียวกับผู้ที่นับถือพระวิษณุ หรือพระพรหมเป็นใหญ่ ก็ล้วนต้องบูชาพระพิฆเนศอันเป็นบุตรของพระศิวะก่อนการบูชาพระวิษณุหรือพระพรหมตามหลักปฏิบัติที่มีมาแต่โบราณ นั่นหมายถึงต่างฝ่ายต่างก็ให้ความเคารพในมหาเทพอันสูงสุดของอีกฝ่าย
ชาวฮินดูผู้ใด ที่เข้าถึงปรัชญาอันสูงสุดของศาสนาพราหมณ์ได้อย่างลึกซึ้งแล้ว ผู้นั้นจะไม่มีการแยกฝ่ายแล้วว่า ฝ่ายไหนเป็นใหญ่ มหาเทพองค์ไหนสูงกว่า เพราะพระพรหม พระวิษณุ และพระศิวะ ต่างก็ได้รวมกันเป็นหนึ่ง หรือเป็น พระตรีมูรติ อันเป็นความยิ่งใหญ่สมบูรณ์เหนือสิ่งอื่นใดในจักรวาลแล้วนั่นเอง!!
******เมื่อได้ศึกษาปรัชญาและคำสอนในภควัทคีตาแล้ว... พฤติกรรมการนับถือลัทธิทรงเจ้าและการหลงเชื่อร่างทรงของทุกท่านก็จะมลายหายไป พฤติกรรมการนับถือเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์ของท่านในแบบเดิมๆ จะเปลี่ยนไป...และค้นพบว่าตัวท่านเองได้เกิดปัญญา เกิดสติ มองเห็นดวงไฟสุกสว่าง จุดประกายนำทางชีวิตของท่านไปสู่ความเจริญ ก่อเกิดความสำเร็จและความสุขอันแท้จริง******
และจากที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้น ก็คงจะพอที่จะทำให้ผู้ฝึกโยคะทั้งหลายพอที่จะทราบและเข้าใจ ถึงเหตุผลว่าทำไมเราจึงควรอ่านและศึกษา มหากาพย์เรื่องนี้
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าแนวทางจาก ภควัทคีตา จะนำพาทุกท่านไปพบกับวิถีแห่งความสุขที่แท้จริงของชีวิต
รบกวนทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาอ่านบล็อก ทั้งตั้งใจและบังเอิญเข้ามาอ่านก็ดี ทุกความคิดเห็นของท่านมีความสำคัญมากๆสำหรับผม โปรดช่วยแสดงความคิดเห็น ด้านล่างของบทความทุกบทความที่ท่านให้เกียรติเข้ามาอ่าน เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการปรับปรุงแก้ไข ให้กับผู้เขียนในโอกาสต่อไป หรือหากท่านต้องการส่งข้อความแสดงความคิดเห็นแบบส่วนตัวหรือเข้าไปเยี่ยมชมรูปภาพของครูจิมมี่ ก็สามารถติดต่อได้ที่ e-mail: jimmythaiyoga@yahoo.com www.facebook.com.โดยค้นหาจาก e-mail ขอบพระคุณมากๆครับ
นมัสเต,
จิมมี่โยคะ
ขอขอบพระคุณ ข้อมูลจาก http://www.siamganesh.com/BhagavadGita.html
สวัสดีค่ะครู
ตอบลบWelcome back home ค่า
ไป Yoga Conference สนุกไหมค่ะ
รอชมรูปสวยๆ อยู่นะ
บุญรักษาค่าครู
ปล. ไม่ได้ไปเรียนกับครู หลายอาทิตย์เลย
ไม่สบายอ่ะค่ะ แหะแหะ
ซื้อ "ภควัทคีตา" มาอ่านแล้วค่ะ
ตอบลบคาดว่าคงใช้เวลานาน กว่าจะอ่านรู้เรื่อง
และก็หวังเช่นกันว่า "ภควัทคีตา" จะนำ
พาให้เราพบหนทางนำไปสู่ความสุขที่แท้จริงของชีวิต
แต่ก่อนอื่น ต้องอ่านให้ออกก่อน ว่ามั้ยครูจิมมี่ ฮึๆๆ -_-
"...สมาธิอันได้แก่ความแน่วแน่ในใจย่อมไม่มีแก่คนที่กินอิ่มจนเกินไปหรือหิวเกินไป..." อันนี้เห็นด้วยอย่างยิ่ง lol
ไปก่อนนะครู ท้องเรียกร้องหาอาหารเย็นแล้ว
ขอให้มีความสุขกับการทำงานเหมือนทุกๆวัน
MJ (^-^)/
ตอนนี้ครูจิมมี่ยังเปิดสอนอยู่ป่าวคะ ที่กทม.?
ตอบลบ