เรื่องเล่า...จากครูโยคะ

เรื่องเล่า...จากครูโยคะ เป็นการรวบรวมเรื่องราวต่างๆจากประสบการณ์การสอนโยคะของครูจิมมี่ ถ่ายทอดออกมาเป็นบทความ สอดแทรกอารมย์ขัน เหมาะกับผู้ที่สนใจในการฝึกโยคะ, ครูฝึกโยคะและทุกๆคน ทุกเพศทุกวัย



สำหรับทุกๆท่านที่เพิ่งจะเข้ามาใช้บริการ อ่านบล็อก เรื่องเล่า...จากครูโยคะ โดยครูจิมมี่ สามารถเลือกคลิ๊กเข้าไปอ่าน บทความอื่นๆได้ ที่เดือนต่างๆ ซึ่งเรียงอยู่ทางด้านขวามือของบทความ ขอบพระคุณมากครับ



ขอพลังแห่งโยคะจงอยู่กับคุณตลอดไป...นมัสเต...





วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2556

บุคคลระดับตำนาน แห่งวงการโยคะที่มัยซอร์(Jimmy in Mysore 12)



 

บุคคลระดับตำนาน แห่งวงการโยคะที่มัยซอร์(Jimmy in Mysore 12)

บุคคลท่านนี้ ที่ผมกำลังจะกล่าวถึง เป็นบุคคลที่มีความสำคัญมากๆที่ KPJAYI., ผู้ฝึกโยคะที่KPJAYI.ทุกๆคนต่างก็รู้จักเขากันเป็นอย่างดี และเป็นที่รู้จักของผู้ฝึกAshtanga Vinyasa Yoga อย่างกว้างขวางทั่วโลก พอจะเดากันได้ไหมเอ่ยครับ? ว่าบุคคลสำคัญท่านนี้เป็นใคร?...




บางท่านอาจจะนึกถึง คุรุชี/กูรูจี ท่านศรี เค ปัถพี โชอิส, บางท่านอาจจะนึกถึง ท่านครูอัมม่า, บางท่านอาจจะนึกถึง ครูแม่ สารัถสวัตรี, บางท่านอาจจะนึกถึงครูชารัถ....รายชื่อที่กล่าวมานี้ทั้งหมดถือเป็นปรมาจารย์ระดับตำนานทุกท่าน แต่ก็ไม่ใช่บุคคลที่ผมกำลังจะกล่าวถึงท่านนี้นะครับ...



ผมใบ้ให้นิดหนึ่งครับ บุคคลท่านนี้เพศชาย อายุยังไม่มากเท่าไหร่นัก ที่สำคัญไม่ใช่ชาวอินเดียด้วยน่ะครับ  พอจะเดาได้ไหมเอ่ยครับ? ว่าเป็นใคร...

ข้อมูลเพิ่มเติมที่สำคัญมากๆเลยก็คือ ไม่ได้เป็นครูสอนโยคะด้วยน่ะครับ...แล้วก็แทบจะไม่เคยฝึกโยคะเลยล่ะครับ... น่าสนใจๆ  ใครกันเอ่ยหว่า?...



ถ้าเป็นท่านเป็นผู้ที่เคยมาฝึกโยคะที่ KPJAYI. คงจะเดาออกแล้วล่ะครับว่าบุคคลท่านที่ผมกำลังกล่าวถึงนี้คือใคร และเป็นบุคคลระดับตำนานที่เล่าขานต่อๆกันไปของผู้ที่เคยมาฝึกโยคะที่เมืองมัยซอร์นี้ได้อย่างไร แต่ถ้าท่านไม่เคยมาฝึกโยคะที่นี่เลยก็อาจจะยิ่ง งง หนักกันไปใหญ่เลยล่ะครับ



บุคคลท่านนี้ก็คือ “ปราก๊าช กิริ” (Prakash Giri)  จากการที่ผมได้คุยกับปราก๊าชเป็นประจำ ก็ได้ข้อมูลคร่าวๆมาว่า เขาเป็นชาวเนปาล ซึ่งมาทำงานที่KPJAYI.จากการแนะนำของเพื่อน เขาทำงานที่นี่ได้ประมาณ 7ปีแล้วล่ะครับ เขามีอายุเท่ากันกับผมเลยล่ะครับ มีภรรยาและลูกๆอยู่ที่ประเทศเนปาล, สามารถพูดภาษาท้องถิ่นอินเดีย(ฮินดี้)ได้, และพูดภาษาอังกฤษได้

ถ้าถามผมว่าเขามีความสำคัญยังไง  ในความคิดของผมบอกได้เลยครับ ว่าเขาเป็น General Manager (GM.)ระดับผู้บริหาร ของที่KPJAYI. แน่นอนครับ ดังนั้นใครๆก็จะต้องรู้จักเขา(อันนี้คือตำแหน่งของปราก๊าช ในความคิดของผมคนเดียวนะครับ)  สถานที่ทำงานประจำของปราก๊าช ก็คือ หน้าประตูใหญ่ ทางเข้าศาลาฝึกของ KPJAYI.  




งานหลักๆ ของปราก๊าช ก็คือดูแลความสงบเรียบร้อยต่างๆของศาลาฝึก, เป็นผู้ตอบข้อสงสัยระดับขั้นพื้นฐานของผู้ที่มาติดต่อธุระ รวมถึงผู้ฝึกโยคะที่KPJAYI. คอยขับรถมอร์เตอร์ไซด์รับส่ง คุณครูแม่สารัถสวัตรี และลูกๆของครูชารัถ, คอยเปิด-ปิด ประตูศาลาฝึกตามเวลาที่ได้กำหนดไว้(เวลาเปิดคือตีสี่-เวลาปิดน่าจะประมาณหกโมงเย็นครับ) ขับมอร์เตอร์ไซด์รับ-ส่งเอกสารต่างๆของศาลาฝึก, พานักเรียนใหม่ไปดูสถานที่ฝึก(ศาลาฝึกแห่งที่ 2 ที่ครูสารัถสวัตรีใช้ทำการสอน), เป็นผู้ควบคุมการเข้า-ออก ของนักเรียนที่มาฝึกโยคะที่นี่ ตามเวลาทำการและตามตารางกิจกรรมต่างๆของศาลาฝึก รวมจนถึงเป็นพี่เลี้ยงและเป็นเพื่อนเล่นให้กับลูกๆของครูชารัถอีกด้วย




ที่สำคัญไม่ว่าใครก็ตามที่จะมาลงทะเบียนฝึกโยคะที่นี่ พูดง่ายๆเลยว่าเกือบจะทุกคนล่ะครับ ก็จะต้องผ่านการสัมภาษณ์จากปราก๊าช เป็นขั้นตอนแรกก่อนน่ะครับ ถ้ามาลงทะเบียนไม่ถูกวัน เช่นวันเสาร์ซึ่งเป็นวันหยุดของศาลาฝึก หรือวันข้างขึ้น/ข้างแรม (ที่หลายๆท่านอาจจะไม่ค่อยทราบ แต่ผู้ฝึกโยคะที่นี่ทุกคนจะต้องทราบ) ปราก๊าซก็จะเชิญให้กลับไปก่อน ไม่อนุญาตให้เข้าไปในศาลาเป็นอันขาด และให้มาในวันและเวลาทำการของศาลาฝึกที่กำหนดไว้เท่านั้น  แต่ถ้ามาตรงตามเวลาการรับลงทะเบียนของศาลาฝึก ลักษณะและบทสัมภาษณ์ของปราก๊าช ก็คือ จะมองหน้าผู้ที่ประสงค์จะลงทะเบียนแบบมากกว่าปกติเล็กน้อย และถามว่าจะลงทะเบียนเรียนกับใคร ครูชารัถ หรือครูสารัถสวัตรี? แค่นี้ล่ะครับ แล้วก็จะให้ผ่านเข้าไปทำการรอคิวลงทะเบียนได้



ผมลองสังเกตดูก็พอจะรู้ได้เลยว่า การที่ปราก๊าชมองหน้าผู้ที่จะมาลงทะเบียนแบบนั้นและถามแบบนั้น เป็นวิธีการจดจำอัตลักษณ์ ของผู้ที่จะมาลงทะเบียนฝึกที่นี่ ดังนั้นปราก๊าชจึงสามารถจดจำนักเรียนที่มาฝึกที่นี่ได้อย่างค่อนข้างแม่นยำ และสามารถจดจำชื่อของนักเรียนหลายต่อหลายคนได้อีกด้วยล่ะครับ ถ้าใครที่ไม่คุ้นหน้าเข้ามาก็จะถูกสกัดกั้นไว้ก่อนเสมอทันที



คราวนี้ทุกๆท่านก็ได้ทราบแล้วนะครับว่าทำไม “ปราก๊าช” ถึงเป็นบุคคลที่มีความสำคัญมากๆที่ KPJAYI., ผู้ฝึกโยคะที่KPJAYI.ทุกๆคนต่างก็รู้จักเขากันเป็นอย่างดี และเป็นที่รู้จักของผู้ฝึกAshtanga Vinyasa Yoga อย่างกว้างขวางทั่วโลก ฮ่าๆๆ


                      (ภาพการ์ตูนล้อเลียนปราก๊าช ซึ่งครูบุญชูเป็นผู้วาด)

ก็ถือได้ว่าปราก๊าชเป็นคู่หูของผมอีกคนหนึ่งที่มัยซอร์นี่เลยล่ะครับ ช่วงที่ผมมาใหม่ๆ ผมก็ไม่ค่อยรู้จักใคร พอมีเวลาว่างมากๆ พอผมรู้สึกเหงาๆ ไม่มีอะไรทำ บางทีผมก็จะเดินมาซื้อขนมและน้ำดื่มที่ร้านค้าใกล้ๆศาลาฝึก เนื่องจากที่พักของผมไม่ได้ห่างจากศาลาฝึกสักเท่าไหร่ แล้วก็จะเดินผ่านมาดูที่ด้านหน้าศาลาฝึก ผมก็มักจะได้เจอและพูดคุยกับปราก๊าชเสมอๆ ปราก๊าชมีความรู้สึกดีๆกับนักเรียนไทยหลายๆคนที่มาฝึโยคะที่นี่ และผู้ที่ปราก๊าชพูดถึงบ่อยที่สุดก็คือ “ครูบุญชู” เนื่องจากครูบุญชูมาฝึกที่นี่บ่อย แถมยังเป็นผู้ออกแบบลวดลายการ์ตูนบนเสื้อยืดและผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายในศาลาฝึกKPJAYI. ที่สำคัญคือเมื่อไหร่ก็ตามที่Smart Phone ของปราก๊าช มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของแอพพลิเคชั่นบางอันที่ไม่ค่อยสมบูรณ์ ครูบุญชูก็มักจะเป็นผู้ที่คอยช่วยแก้ไขให้เสมอๆ


                                (ปราก๊าช และโทรศัพท์มือถือ Smart Phoneของเขา)


ว่าแล้วปราก๊าช ก็ส่งโทรศัพท์มือถือ Smart Phone ของเขามาให้ผมดู แล้วบอกผมว่า “นี่ไงโทรศัพท์ของผม มันมีปัญหาอีกแล้ว...ช่วยดูให้หน่อยดิ่” ผมคิดในใจว่า ดูน่ะ ดูได้ไม่ยากหรอก..แต่จะแก้ไขให้ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้นะ สรุปผมแก้ไขอะไรให้เขาไม่ได้อ่ะครับ ปราก๊าชมองหน้าผมแล้วพูดว่า “บุญชู ยังเคยแก้ไขให้เราได้เลย” แหมๆๆ ปราก๊าช คนไทยทุกคนไม่ได้แก้ไขโทรศัพท์ให้นายได้หมดหรอกนะเพื่อน อีกอย่างคือครูบุญชู จบวิศวะฯ, ครูจิมมี่ จบครูพละ, ทุกสิ่งทุกอย่างเปรียบเทียบอะไรกันไม่ได้เลยจริงๆ ห่างชั้นกันเยอะขอบอก ทั้งรูปร่าง, หน้าตา, ฐานะทางบ้าน, การศึกษา, ทักษะภาษา, ความสามารถ, ชาติตระกูล...ครูบุญชูกินขาดหมดทุกอย่างละครับ... ดังนั้นนายสิ้นหวังแล้วล่ะเพื่อน ปราก๊าช ฮ่าๆๆๆ

 



จนถึงทุกวันนี้ เวลาที่ไม่มีอะไรทำผมก็จะยังคง เดินมานั่งพูดคุยกับปราก๊าช ที่ด้านหน้าศาลาฝึกเสมอๆ ทุกครั้งที่มาคุยก็มักจะได้ข้อมูลอะไรดีๆเสมอๆล่ะครับ ซึ่งเป็นข้อมูลทั่วๆไปที่ควรทราบเกี่ยวกับศาลาฝึก อาจจะเป็นเพราะว่า เราทั้งคู่วัยเดียวกันเลยคุยกันค่อนข้างรู้เรื่องถูกคอ อาจจะเป็นเพราะว่าห่างไกลบ้านและครอบครัวด้วยกันทั้งคู่ด้วย  พอจะถึงวันหยุดของศาลาฝึก วันเสาร์ หรือวันข้างขึ้น/ข้างแรม ทีไร ปราก๊าช มักแนะนำให้ผมไปเที่ยวตามสถานที่สำคัญต่างๆที่มัยซอร์ เสมอๆ และบอกว่า “ต้องหาอะไรทำน๊ะวันหยุดน่ะจิมมี่ ไม่งั้นจะยิ่งคิดถึงบ้าน” ซึ่งมันเป็นคำพูดที่สะท้อนความรู้สึกได้อย่างชัดเจนมากๆเลยทีเดียวครับว่า ปราก๊าชก็มีความรู้สึกคิดถึงบ้านและครอบครัวไม่น้อยเลยเช่นกันครับ  แต่อีกไม่นานปราก๊าชก็จะได้กลับบ้าน ทุกครั้งที่เป็นช่วงที่ศาลาฝึกหมดซีซั่นและปิดยาว นั่นแหล่ะจะเป็นชวงเวลาทองของปราก๊าชที่จะได้กลับประเทศเนปาลเพื่อไปอยู่กับครอบครัว...

ปราก๊าช สำหรับผมแล้ว เขาเป็นเหมือนสัญลักษณ์ ของความจงรักภักดีต่อหน้าที่ และการทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่ เต็มกำลังความสามารถ อย่างแท้จริง จนเป็นที่ยอมรับของทุกๆคนที่นี่ และถ้าคุณได้มีโอกาสมาฝึกโยคะที่KPJAYI.เมืองมัยซอร์ แห่งนี้ วันใดก็ตามในช่วงเย็นๆ ถ้าคุณรู้สึกเหงา คิดถึงบ้าน ไม่มีอะไรทำ ลองเดินมาที่หน้าศาลาฝึก คุยอาจจะได้เพื่อนคุยคลายเหงา และมิตรภาพอันดีงาม อย่างที่ผมได้พบเจอมาแล้วที่นี่...



และนี่คือเรื่องราวของปราก๊าช บุคคลระดับตำนาน ของวงการAshtanga Vinyasa Yoga คนที่นักเรียนKPJAYI.ทุกคนจะต้องจดจำและกล่าวถึงไปอีกนานแสนนาน ปราก๊าช กิริ (Prakash Giri)



ขอมิตรภาพอันดีงาม พลังแห่งโยคะ ความรักและศรัทธาจงอยู่กับทุกๆคนตลอดไป บุญรักษา พระคุ้มครอง



นมัสเต,



จิมมี่โยคะ


ป้ายกำกับ

Powered By Blogger