เรื่องเล่า...จากครูโยคะ

เรื่องเล่า...จากครูโยคะ เป็นการรวบรวมเรื่องราวต่างๆจากประสบการณ์การสอนโยคะของครูจิมมี่ ถ่ายทอดออกมาเป็นบทความ สอดแทรกอารมย์ขัน เหมาะกับผู้ที่สนใจในการฝึกโยคะ, ครูฝึกโยคะและทุกๆคน ทุกเพศทุกวัย



สำหรับทุกๆท่านที่เพิ่งจะเข้ามาใช้บริการ อ่านบล็อก เรื่องเล่า...จากครูโยคะ โดยครูจิมมี่ สามารถเลือกคลิ๊กเข้าไปอ่าน บทความอื่นๆได้ ที่เดือนต่างๆ ซึ่งเรียงอยู่ทางด้านขวามือของบทความ ขอบพระคุณมากครับ



ขอพลังแห่งโยคะจงอยู่กับคุณตลอดไป...นมัสเต...





วันศุกร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2556

Statusข้อความของครูSharath บนไว้ท์บอร์ด กับคลาสLed Primary Series ครั้งแรกของผมที่ KPJAYI.(Jimmy in Mysore 10)



 

Statusข้อความของครูSharath บนไว้ท์บอร์ด กับคลาสLed Primary Series ครั้งแรกของผมที่ KPJAYI.(Jimmy in Mysore 10)


วันศุกร์ที่ 4มกราคม 2556 ผมตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ด้วยความตื่นเต้น เพราะจะเป็นประสบการณ์ครั้งแรกของผม ที่จะได้เข้าคลาส Led Primary Series ของครูSharath ที่ KPJAYI. โดยปกติแล้วก็จะมี สองช่วงเวลาครับ คือคลาสแรกตีสี่ครึ่ง, คลาสที่สองหกโมงเช้า จากคำแนะนำของผู้ที่มีประสบการณ์หลายๆท่านก็บอกกับผมมาว่าให้ไปรอก่อนเวลาฝึกอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง เพราะมิเช่นนั้นแล้วจะไม่มีพื้นที่เหลือให้เราใช้ในการฝึก



เวลาตีสี่ครึ่ง จะเป็นรอบแรก ซึ่งเป็นคลาส Led Intermediate Series สำหรับผู้ฝึกในระดับขั้นกลางและขั้นสูง (ซึ่งรอบนี้ไม่เกี่ยวกับนักเรียนใหม่อย่างผมครับ เป็นของนักเรียนกลุ่มที่มีวิทยายุทธ์สูงส่ง อาคมแกร่งกล้า) คลาสนี้ก็จะไปจบที่เวลาก่อน หกโมงเช้าเล็กน้อยครับ



เวลาหกโมงเช้า จะเป็นรอบที่สองครับ(พูดง่ายๆพอรอบแรกยังไม่ทันจะจบคลาสดี พวกที่รอเรียนรอบที่สอง ก็จะจ่อคิวออรอกันหน้าประตูห้องฝึกกันอย่างล้นหลาม พร้อมที่จะวิ่งเข้าไปแย่งชิงพื้นที่ในการฝึกของตนเอง) ซึ่งเป็นนี้ก็จะเป็นคลาส Led Primary Series สำหรับผู้ฝึกขั้นพื้นฐานและผู้ฝึกทั่วๆไป

หมายเหตุ...ที่ผมได้กล่าวมาข้างต้นนี้ คือตารางเวลาในการฝึกเฉพาะทุกๆวันศุกร์เท่านั้นนะครับ



กฎพื้นฐานทั่วๆไปของการเข้าคลาสก็คือเราต้องเข้าคลาสให้เหมาะสมกับความสามารถของตนเอง ซึ่งครูจะเป็นผู้ระบุไว้ตั้งแต่แรกในวันที่เราได้ลงทะเบียน แต่สำหรับผู้ฝึกระดับขั้นกลางและขั้นสูงที่มีวิทยายุทธ์สูงส่ง อาคมแกร่งกล้าแล้ว จะสามารถเลือกเข้าเรียนคลาสไหนก็ได้ไม่มีปัญหา(เข้าได้ทั้ง Primary Series และIntermediate Series) แต่ถ้าเป็นนักเรียนใหม่แล้วก็จะเข้าได้แค่คลาส Primary Seriesเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ไปเข้าคลาส Intermediate Series ครับ

ผมก็ไปรอเรียนก่อนเวลาคลาสที่สอง ไปถึงก่อนหกโมงเช้าประมาณครึ่งชั่วโมงตามที่ผู้มีประสบการณ์หลายๆท่านได้บอกมา พอผมเดินไปถึงหน้าศาลาฝึก ภาพที่ปรากฏ ณ เบื้องหน้าก็คือ มีผู้ฝึกถือเสื่อยืนรอล้นออกจากรั้วประตูศาลาฝึกมาจนถึงถนนหน้าศาลาฝึกเลยล่ะครับ ผมก็เลยคิดในใจว่าเรามาก่อนครึ่งชั่วโมงนี่ถือว่ามารอช้าไปแล้วหรือนี่ แสดงว่าเราจะต้องมารอก่อน 45 – 60นาทีเลยล่ะมั้งนี่ ถึงจะได้มารอเป็นคนแรกๆ ก็จะเป็นที่รู้กันน่ะครับ ว่าถ้าเรามารอก่อนก็จะมีโอกาสที่ดีมากๆในการได้พื้นที่ฝึกที่ดีๆ



       (บรรยากาศการนั่งรอ ล้นจากประตูรั้วของศาลาฝึก ออกมาถึงถนนด้านหน้าศาลาฝึก)

ในขณะที่เรากำลังยืนรอ, นั่งรอกันแบบหน้าตายังไม่ค่อยอยากจะตื่นสักเท่าไหร่และต่างคนต่างก็ง่วงหนาวหาวนอนกันทั่วหน้า ผู้ฝึกบางท่านถึงกับนั่งหลับสัปหงกเลยทีเดียว เราก็จะได้ยินเสียงครูSharathนับจังหวะของการสอนด้วยภาษาสันสฤตเป็นระยะๆ ก็จะเป็นที่รู้กันอีกล่ะครับว่าระหว่างที่เรากำลังรออยู่นั้น ห้ามพูดคุยกันจนทำให้เกิดเสียงดังจนเป็นการรบกวนการเรียนการสอนภายในศาลาฝึก หากจะคุยก็ต้องคุยแบบกระซิบๆกันเบาๆน่ะครับ พอพวกเราทุกคนที่มารอเข้าคลาสได้ยินเสียงสวดมนตรา สำหรับจบการฝึกจากคลาสแรกดังขึ้น ทุกๆคนก็จะกระตือรือร้นรีบลุกขึ้นยืนและเดินเข้าไปให้ใกล้ประตูทางเข้าห้องฝึกให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้



                      (จังหวะของการเดินเบียดเสียดกันเข้าไปที่ประตูห้องฝึก)

เนื่องจากผมมารอค่อนข้างช้า พอเข้ามาถึงห้องฝึกได้แล้วก็พบว่าพื้นที่ในห้องฝึกก็จะถูกผู้ที่เข้ามาก่อนปูเสื่อโยคะเพื่อจองพื้นที่ในการฝึกของตนเองเต็มพรึบไปหมดแล้วล่ะครับ ในขณะที่บรรยากาศการจับจองพื้นที่ฝึกก็กำลังสับสนวุ่นวายกันอยู่พอสมควร ทันใดนั้นเองผมก็หันมองไปเห็นครูไนเจลกำลังม้วนเสื่อโยคะเก็บหลังจากที่ฝึกเสร็จอยู่บนStage ที่ครูSharathใช้ยืน/นั่งสอน  ผมจึงรีบตระโกนเรียกชื่อครูไนเจล และโบกไม้โบกมือเป็นสัญลักษณ์จนเป็นอันรู้กันว่าให้จองพื้นที่ตรงบริเวณนั้นให้ผมไว้ก่อน แล้วผมก็รีบวิ่งตรงไปยังที่ครูไนเจลอยู่อย่างรวดเร็ว 

ความรู้สึก ณ ตอนนั้นก็คืออุตส่าห์ตื่นแต่เช้าขนาดนี้มาถ้าไม่มีพื้นที่เหลือให้เราฝึกเลยคงเซ็งแย่ ขอให้มีพื้นที่ฝึกในห้องสำหรับเราด้วยแล้วกัน  ก็ดีใจมากๆครับหลังจากที่ได้พื้นที่ในการฝึกต่อจากครูไนเจล  ผมก็ด้พื้นที่ที่ต้องยืนอัดอยู่กับคนอื่น รวมเป็น 6คน บนStage, ซึ่งบนStage ก็จะแบ่งออกเป็นสองฝั่งครับ แต่ละฝั่งจะสามารถวางเสื่อโยคะได้ 3ที่ รวมเป็น6ที่ การวางเสื่อก็เป็นแบบที่เสื่อชิดติดกันเลยนะครับ(ติดจริงๆ ไม่มีช่องว่างระหว่างเสื่อโยคะเลยล่ะครับ) ทั้งสองฝั่งหันหน้าเข้าหากัน

เหลือเพียงพื้นที่เล็กๆตรงกลางให้ครู Sharath ไว้สามารถยืนสอนได้เท่านั้นเองล่ะครับ



สำหรับผู้ที่มาสายกว่าผมบางคน ก็อาจจะต้องไปปูเสื่อโยคะฝึกในห้องล็อคเกอร์เปลี่ยนเสื้อผ้า(ห้องล็อคเกอร์ชายจะจุได้ประมาณ 8เสื่อ, ห้องล็อคเกอร์หญิงจะจุได้ประมาณ 10เสื่อ), บางคนก็จะได้พื้นที่สุดท้ายในล็อคเกอร์คือพื้นที่ที่อยู่ติดกับหน้าประตูห้องน้ำ ส่วนผู้ที่มาช้ามากๆก็อาจจะได้พื้นที่ว่างตรงโถงหน้าประตูทางเข้าห้องฝึก(คือเข้าห้องฝึกไม่ได้แล้วน่ะครับ) แน่นมากๆ จำนวนผู้ฝึกน่าจะเป็นร้อยคนเลยล่ะครับจากการประมาณด้วยสายตาของผม

ใช้เวลาไม่น่าจะเกิน 10นาที ทุกคนก็จะพร้อมเข้าสู่พื้นที่ฝึกบนเสื่อโยคะของตนเอง เสื่อวางกันแบบเสื่อแทบจะเกยเสื่อ ก่อนที่เราจะกางแขนกางขาทุกๆครั้ง สายตาเราก็ต้องดูให้ดีว่าจะไปโดนใครไหม และใครจะมาโดนเราไหม, หูเราก็จะต้องคอยตั้งใจฟังจังหวะการสอนและการเปลี่ยนท่าที่ครูบอกอยู่ตลอดเวลา อย่าได้หลงจังหวะ อย่าได้เปลี่ยนท่าผิดเชียว เพราะจะกลายเป็น “แกะดำ” ในคลาสไปทันที  บอกได้เลยครับว่า เป็นคลาสที่เปี่ยมไปด้วยพลังศรัทธา เราต้องมีสติรู้ตัวทั่วพร้อมตลอดระยะเวลาของการฝึกจริงๆเลยเชียวครับ เราต้องพร้อมมากๆเลยล่ะครับถ้าจะเข้าคลาสนี้ ทั้งร่างกายและจิตใจต้องจัดมาให้เต็ม ขอบอก!




และพอถึงเวลา ครูSharath ก็จะเดินมายืนบนStage เพื่อที่จะเริ่มทำการสอน (ตำแหน่งของผมจะอยู่ทางด้านขวามือด้านหน้าของครูSharath ก็ยืนประจัญหน้ากับครูเขาเลยล่ะครับ ผมห่างกับครูแค่ศอกเดียวจริงๆครับ) เมื่อครูมองกวาดสายตาไปรอบๆห้องฝึกแล้วเห็นว่าห้องฝึกแออัดยัดเหยียดมากๆ ครูก็เลยเอ่ยถามขึ้นมาว่า มีใครในห้องนี้บ้างที่มีเวลาฝึกตั้งแต่ 9:00น.ไปจนถึง 10:00น.? ก็มีผมด้วยแน่ๆเพราะ ณ ตอนนั้นผมอยู่ในกลุ่มผู้ฝึกเวลา 9:30น. ผมจึงยกมือขึ้นครึ่งหนึ่งพองาม ครูหันมามองผมแป๊บหนึ่งด้วยสีหน้าแววตานิ่งๆเฉยๆ แล้วพูดต่อว่าพวกคุณไม่ได้อ่านข้อความบนกระดานเหรอ? ว่ากลุ่มผู้ฝึกที่มีช่วงเวลาฝึกตั้งแต่ 9:00น.ไปจนถึง 10:00น. ให้มาเข้าคลาสพิเศษที่ได้จัดเพิ่มขึ้นมาอีกคลาสในช่วงเวลา7:30น. ไม่เห็นเหรอว่าคลาสนี้แน่นขนาดไหน? (เนื่องจากเดือนมกราคมของทุกๆปีจะเป็นช่วงที่มีผู้มาฝึกที่KPJAYI.เย๊อะมากๆ ดังนั้นครูจึงจำเป็นจะต้องเพิ่มคลาส Led Primary Series ขึ้นมาพิเศษอีกรอบในช่วงเวลา 7:30น.)



ผมคิดในใจแค่ว่า ใช่ครับ ผมไม่เห็นอ่ะ! กระดานไหนอ่ะครับ? หรือว่าพวกเราทุกคนจะต้องเข้าไปติดตามการUpdate Status.ที่Fan PageของครูSharathในFaceBook จะได้ทราบว่าจะมีกิจกรรมอะไร, ตอนไหนที่ศาลาฝึก, และครูเขาได้โพสท์Statusอะไรไว้บ้าง บนกระดานข้อความ (ผมคิดไปไกลได้ถึงขนาดนั้น) ก็ยังเกิดคำถามในใจขึ้นมาอีกว่ามันจะใช่อย่างที่เราคิดหรือเปล่า? จะทันสมัยเกินไปหน่อยไหม? และถ้าเป็นกระดานจริงๆล่ะมันจะตั้งอยู่ตรงไหน? 

ก็ด้วยความที่ว่าเราเป็นนักเรียนใหม่อ่ะนะ ก็เลยไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวอะไรกับใครเขา ที่สำคัญก็ไม่ค่อยได้รู้จักใครอีกด้วย แต่ก็ไม่ใช่ผมคนเดียวหรอกครับที่ไม่ทราบเรื่องนี้ จากการที่ผมชำเลืองมองไปรอบๆห้องก็จำนวนไม่น่าจะต่ำกว่าครึ่งห้องฝึกเลยล่ะครับที่ไม่ทราบเรื่องนี้เหมือนกันกับผม อิๆๆ มีพวกเยอะเลย  ครูก็เลยบอกต่อว่า ต่อไปให้สังเกตกระดานไว้ท์บอร์ดที่อยู่ข้างๆประตูทางเข้าห้องฝึก 

ทุกคนก็เลยถึงบางอ้อ ว่าที่ครูเขาUpdate Status ไว้นั้นมันอยู่ที่ไว้ท์บอร์ดข้างประตู ไม่ใช่หน้าFan Page ใน FaceBook(เชื่อได้เลยหลายๆคนในห้อง ต้องคิดแบบเดียวกับผมแน่ๆ) แล้วครูก็ไม่ได้ว่าอะไรต่อครับ แน่ล่ะครับเพราะถึงตอนนี้แล้วไม่มีใครสามารถขยับไปไหนได้แล้วล่ะครับ ทุกๆอณูพื้นที่ของศาลาฝึกเต็มไปด้วยผู้ฝึกที่ยืนเตรียมพร้อมอย่างใจจดใจจ่อที่จะฝึก เมื่อครูเห็นว่าทุกๆคนพร้อมแล้วครูก็เริ่มคลาสทันที 

เป็นที่รู้กันอีกล่ะครับว่าในขณะที่ครูกำลังนำคลาสอยู่นั้น ถ้าใครทำไปก่อนจังหวะหรือทำผิดท่าจากที่ครูบอก(มันก็จะดูง่ายมากๆ เพราะมันจะไม่เหมือนคนอื่นที่เขากำลังทำกันอยู่อย่างพร้อมเพรียงน่ะครับ ศัพท์ที่ผมตั้งขึ้นมาเองก็คือ “สภาวะของแกะดำ”) ครูก็จะหยุดจังหวะและออกคำสั่งให้ผู้ที่ไปก่อนกลับมาอยู่ในท่าที่เหมือนกับคนอื่นเขา หรือคนที่ใจลอยทำผิดท่าไปให้กลับมาทำท่าเดียวกับคนอื่นๆ 

พูดง่ายๆก็คือทุกๆคนในคลาสจะต้องไปตามจังหวะที่ครูท่านสอนและควบคลุมอยู่อย่างเคร่งคัดเท่านั้น  ถ้ามีใครทำตัวเป็น  “สภาวะของแกะดำ” เพื่อนๆร่วมคลาสก็จะต้องเสียจังหวะในการฝึกและทรมานกับการที่ต้องค้างอยู่ในท่านั้นๆนานกว่าปกติ เนื่องจากครูจะต้องค้างจังหวะเพื่อไปดึง “แกะดำ” ตัวนั้นกลับมาเข้าฝูงให้เหมือนคนอื่นๆ




หลังจากที่ฝึกเสร็จทุกๆคนที่เดินออกจากห้องฝึกมา ต่างก็จะมามองหา Statusข้อความที่ครูSharathได้เขียนโพสท์เอาไว้ บนไว้ท์บอร์ด, ไอ้เจ้าไว้ท์บอร์ดที่ว่านี้ก็เป็นขนาดมาตรฐานที่มีขายกันทั่วๆไปน่ะครับ กว้างประมาณ 70-80เซนติเมตร สูงประมาณ 100เซนติเมตร ถูกวางพิงไว้กับฝาผนังข้างๆประตูทางเข้าห้องฝึก ก็ต้องสังเกตดูให้ดีๆล่ะครับเพราะตำแหน่งการวางจะต่ำกว่าสายตาของเรา(ต่ำกว่าเอวของเราด้วยครับ พูดง่ายๆว่าต้องก้มกันลงไปมองเลยทีเดียว) 

หลังจากนั้นมาทุกๆวัน พวกเราก็จะต้องสังเกตข้อความบนไว้ท์บอร์ดกันล่ะครับโดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนหน้าวันที่ครูจะสอนLed Class กระดานไว้ท์บอร์ดนี้ก็จะได้รับความสนใจเป็นพิเศษเลยล่ะครับ พวกเราต้องมาติดตามการ Update Status ข้อความของครูที่กระดานนี้


ก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ในชีวิตที่ดีมากๆเลยครับ มีครบทุกรสชาติภายในคลาสเดียว ถือว่าเป็นวาสนาของผมอย่างมากเลยครับที่มีโอกาสได้มาฝึกโยคะที่นี่ในช่วงเดือนมกราคม ซึ่งเป็นช่วงพี๊คๆแบบนี้

...โปรดติดตามตอนต่อไปครับ...



ขอพลังแห่งโยคะ ความรักและศรัทธาจงอยู่กับทุกๆคนตลอดไป บุญรักษา พระคุ้มครอง


นมัสเต,


จิมมี่โยคะ

ป้ายกำกับ

Powered By Blogger